นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ เห็นชอบทบทวนกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หรือก๊าซหุงต้ม สำหรับราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นจากเดิม จากเดิม 17.1795 บาท/กิโลกรัม เหลือ 14.3758 บาท/กิโลกรัม ทำให้ราคาขายปลีก LPG ขนาดถัง 15 กิโลกรัม ราคาลดจาก 363 บาท เหลือ 318 บาท หรือลดลง 45 บาท/ถัง เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.63 ภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (อบน.) ในวันที่ 23 มี.ค.63
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง การที่ราคาขายปลีกปรับตัวลงก็จะเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนจากภาวะเศรษฐกิจ และภาวะแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ในอนาคตกระทรวงพลังงาน สามารถบริหารจัดการ และรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกในประเทศได้ โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามกรอบนโยบายการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 เข้ามาดูแล
นอกจากนี้ กบง.ยังเห็นชอบให้ความช่วยเหลือราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถทั่วไป เนื่องจากปัจจุบันได้เกิดภาวะแพร่กระจายของโรคติดเชื้อโควิด-19 และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ส่งผลกระทบต่อปริมาณการจำหน่ายก๊าซ NGV การคมนาคม ขนส่ง และเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือ บมจ.ปตท. (PTT) ให้คงราคาขายปลีก NGV ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม ต่อไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-31 ก.ค.63 สำหรับรถโดยสารสาธารณะ (ในเขต กทม./ปริมณฑล: รถแท็กซี่/ตุ๊กตุ๊ก/รถตู้ ร่วม ขสมก. ในต่างจังหวัด: รถโดยสาร/มินิบัส/สองแถว ร่วม ขสมก. รถโดยสาร/รถตู้ ร่วม บขส. และรถแท็กซี่) และให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV รถทั่วไปที่ 15.31 บาท/กิโลกรัม ต่อไปอีก 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.-15 ส.ค.63 เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน