นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมเรื่องการดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ตามที่หลายจังหวัดเริ่มประกาศมาตรการที่เข้มข้นขึ้น เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น กระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่ดูแลเรื่องราคาสินค้าและช่องทางการกระจายสินค้าได้วางแนวทางเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคให้เกิดความทั่วถึง ดังนี้
1.การทำให้ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านค้าต่างๆ ได้รับสินค้าจากโกดังได้สะดวกรวดเร็ว ทันต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค โดยเห็นควรให้มีความยืดหยุ่นในเรื่องกฎระเบียบต่างๆ ในการขนส่งสินค้าจากโกดังไปยังหน่วยจำหน่ายปลีกต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
2.เร่งส่งเสริมการให้บริการส่งสินค้าถึงบ้าน (Delivery) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการค้าส่งต่างๆ ห้างแมคโคร, โลตัส, บิ๊กซี และเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น ตลอดจนการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพของบริการด้านการส่งอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งในส่วนของ grab, Lineman, Food Panda, GET และ Lalamove เป็นต้น ส่วนร้านโชห่วยนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเข้าไปช่วยกำกับดูแลและแนะนำการเพิ่มศักยภาพให้กับร้านโชห่วยเพื่อให้จัดทำบริการส่งสินค้าถึงบ้าน
รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ กรมการค้าภายในจะจัดรถคาราวานธงฟ้าฝ่าโควิด จำนวน 200 คัน เพื่อออกไปให้บริการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาประหยัดในย่านชุมชน ซึ่งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสินค้าที่จะนำไปจำหน่ายจะเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำตาลทราย และเจลล้างมือ เป็นต้น
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า วันที่ 25 มี.ค.นี้จะเรียกประชุม กรอ.พาณิชย์ ซึ่งจะมีผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) มาประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การผลิต และการกระจายสินค้าว่าจะมีการกำหนดแนวทางในเรื่องนี้ร่วมกันอย่างไร