นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม โดยเริ่มให้พนักงานปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย (Work from Home) แล้ว ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.-30 เม.ย.63 ตามนโยบาย "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ย้ำพนักงานให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัดเพื่อลดความแออัดและความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ในที่ทำงานและที่สาธารณะ ถึงแม้จะเป็นการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย แต่ กฟผ.ได้เตรียมพร้อมและทดลองปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่า มาตรการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าให้แก่ประชาชนอย่างแน่นอน
สำหรับมาตรการด้านการผลิตและส่งกระแสไฟฟ้า กฟผ.มีศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าสำรอง หากต้องปิดศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อกรณีพบพนักงานในศูนย์ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมให้ผู้บริหารและพนักงาน กฟผ. ที่เคยปฏิบัติงานในศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการควบคุมและสั่งการระบบไฟฟ้าเข้ามาร่วมเสริมทีม
ส่วนโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ทั้งในงานเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า กฟผ. ได้คัดเลือกพนักงานที่มีทักษะหลากหลายในสาขาไฟฟ้า เครื่องกล และความชำนาญในการใช้อุปกรณ์ พร้อมทั้งสามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ควบคุมได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน หากเกิดกรณีพนักงานไม่เพียงพอจะดำเนินมาตรการขยายเวลาการทำงานจากกะละ 8 ชั่วโมง เป็น 12 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์พิเศษ อะไหล่ คู่มือที่ใช้ในการซ่อมบำรุงรักษา เพื่อให้สามารถซ่อมบำรุงได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอดจนรายชื่อร้านค้า หรือบริษัทที่ต้องส่งเครื่องมืออุปกรณ์ในการเดินเครื่องและบำรุงรักษาในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
นอกจากนี้ กฟผ. ได้ผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% และหน้ากากอนามัยมอบให้แก่ชุมชนโดยรอบ กฟผ. ประชาชนกลุ่มเสี่ยง อาทิ พนักงานขับรถขนส่งสาธารณะ เด็กและเยาวชน รวมถึงมอบคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 เครื่อง ให้แก่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมสนับสนุนการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
พร้อมปิดศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ทั่วประเทศ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง จ.นนทบุรี, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. เขื่อนศรีนครินทร์ (ราชานุรักษ์) จ.กาญจนบุรี, พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (เหมืองแม่เมาะ) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จ.ลำปาง, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. จะนะ จ.สงขลา, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.-30 เม.ย. 63 เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย