เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบเงินยูโรและเงินเยนในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าแผนการอัดฉีดเม็ดเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบตลาดการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแก้วิกฤติซับไพร์มได้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) เงินดอลลาร์ร่วงแตะ 102.83 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 103.03 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้าที่ตลาดโตเกียว ในขณะเดียวกัน เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.5386 ดอลลาร์ต่อยูโร จาก 1.5353 ดอลลาร์ต่อยูโร
"มาตรการดังกล่าวคงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ วิกฤติซับไพร์มจะยังส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินต่อไป" เดวิด แมนน์ นักยุทธศาสตร์การเงินจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์ตเตอร์ด กล่าว "เงินดอลลาร์ก็จะได้รับผลกระทบและอ่อนค่าลงต่อไป"
นอกจากนั้นเฟดยังตัดสินใจทำการสว็อป (แลกเปลี่ยน) วงเงินสินเชื่อกับธนาคารกลางยุโรปและธนาคารชาติของสวิส หลังจากนั้นธนาคารกลางยุโรปและธนาคารชาติของสวิสจะตอบแทนด้วยการปล่อยกู้เป็นสกุลดอลลาร์เพื่อกระตุ้นให้เกิดอุปทานเงินดอลลาร์ ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางแคนาดาก็ประกาศแผนขยายแผนปล่อยกู้เช่นกัน
เงินดอลลาร์ทะยานแตะระดับ 103.52 เยนต่อดอลลาร์ และ 1.5332 ดอลลาร์ต่อยูโร ในการซื้อขายช่วงเช้าที่ตลาดโตเกียว หลังมีข่าวการร่วมมือกันอัดฉีดเม็ดเงินสู่ระบบ
"เฟดตระหนักดีว่าการลดดอกเบี้ยอย่างเดียวคงไม่สามารถแก้ปัญหาในตลาดได้ จึงตัดสินใจใช้มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบด้วย" โทมัส ลัม นักเศรษฐศาสตร์การคลังจากธนาคารยูโอบีกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--