นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์สินค้าในเรื่องไข่ไก่ที่ขาดตลาดในช่วงนี้ เพราะมีการเพิ่มกำลังซื้อขึ้นหลายเท่า รวมทั้งอาจมีการส่งออกไปจำนวนหนึ่งด้วยว่า ตนได้เร่งออกประกาศห้ามการส่งออกไข่ไปนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะทดลองมาตรการนี้เป็นเวลา 7 วัน เพื่อดูว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ หากยังไม่ดีขึ้นก็จะพิจารณาขยายเวลาอีกครั้ง
ขณะเดียวกันก็ได้มีการประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ จะไม่มีการอนุญาตส่งออกด้วย เพื่อให้สอดประสานเป็นแนวเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์นี้เป็นการชั่วคราวด้วย เพื่อให้มีปริมาณไข่สำหรับการบริโภคภายในประเทศอย่างเพียงพอ
"ในช่วงเวลานี้จากผลกระทบจากโควิด-19 และมาตรการที่เข้มข้นขึ้นของรัฐบาล ทำให้ประชาชนมีความกังวลว่าไข่จะขาดตลาดจึงมีความต้องการเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้ถึง 2-3 เท่า จากการสำรวจบางห้างสรรพสินค้าที่ปกติสินค้า 1 ส่วนจะใช้เวลาขาย 3 วัน แต่ที่ผ่านมาใช้เวลาเพียงวันเดียวก็หมด จึงทำให้สินค้าขาดตลาดในบางช่วงบางเวลา แต่เมื่อดูตัวเลขการผลิตรวมโดยเฉลี่ยยังถือว่าอยู่ในปริมาณเท่าหลายปีที่ผ่านมา คือวันละ 40 ล้านฟอง"
ที่ผ่านมาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อควบคุมไม่ให้มีการขายเกินราคา โดยเฉพาะไข่ไก่ ซึ่งขณะนี้ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มอยู่ที่ประมาณฟองละ 2.80-2.90 บาท ดังนั้นเมื่อถึงมือผู้บริโภคควรจะอยู่ในช่วงฟองละ 3.30-3.50 บาท แต่หากจำหน่ายราคาสูงกว่าราคาเฉลี่ยที่ควรจะเป็นก็จะถือว่าเป็นการค้ากำไรเกินควร ซึ่งจะมีการจับกุมดำเนินคดีโดยเด็ดขาด
"ต้องขอความร่วมมือ เพราะว่าขณะนี้เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์โควิดที่ทุกคนเป็นทุกข์มากอยู่แล้ว หากมีการค้ากำไรเกินควรก็เท่ากับเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ซึ่งไม่สมควรที่จะให้เกิดขึ้น หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสที่ไหนก็ขอให้แจ้งมาที่ โทร.1569 รวมทั้งสายตรวจของกระทรวงพาณิชย์ และสายตรวจของหน่วยงานป้องกันปราบปรามการกักตุนสินค้า และค้ากำไรเกินควรของระดับจังหวัดก็จะออกไปตรวจตราดำเนินการด้วย" นายจุรินทร์ กล่าว