สศค.เผย ก.พ. 63 ท่องเที่ยวชะลอตัวทุกภูมิภาครับผลโควิด-19 ระบาด แต่ยังมีสัญญาณบวกจากบริโภค-ลงทุนเอกชน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 30, 2020 15:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือน ก.พ.63 ว่า ทุกภูมิภาคได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจภาคตะวันออกและภาคใต้ยังมีสัญญาณบวกจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน

  • ภาคตะวันออก ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยว แต่ยังขยายตัวได้จากภาคการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร ส่วนหนึ่งได้รับผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การกระตุ้นการลงทุนผ่านมาตรการภาษีและสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ พบว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานจากภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลง สะท้อนจาก จำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือนที่ลดลงที่ -41.2% และ -47.2% ต่อปี ตามลำดับ โดยลดลงทั้งนักท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติและคนไทย

อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ยังคงอยู่เหนือระดับ 100 เป็นเดือนที่ 28 ติดต่อกัน ที่ระดับ 109.1

สำหรับด้านอุปสงค์ ขยายตัวได้จากภาคการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดีจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ที่ขยายตัว 5.4% ต่อปี สะท้อนถึงการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในภูมิภาคที่ขยายตัวได้ดี ส่วนหนึ่งเนื่องจากรายได้เกษตรกรขยายตัวสูงถึง 26.1% ต่อปี

นอกจากนี้ เงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ อยู่ที่ 2,442.8 ล้านบาท ขยายตัว 39.2% ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดชลบุรี 1,343 ล้านบาท จากโรงงานประกอบชิ้นงานที่ทำด้วยโลหะ เป็นสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีเงินลงทุนในโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการจำนวน 2,707.1 ล้านบาท ขยายตัว 7.6% ต่อปี จากการลงทุนในโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากพลาสติก 1,389 ล้านบาทในจังหวัดระยอง โดยมีมาตรการภาครัฐสนับสนุน อาทิ การกระตุ้นการลงทุนผ่านมาตรการภาษีและสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ

ขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ 0.7% ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือน ม.ค.63 อยู่ในระดับต่ำที่ 0.8%

  • ภาคใต้ ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยว แต่ยังขยายตัวได้ดีภาคการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน พบว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานจากภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลง จำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือนที่ลดลงที่ -39.8% และ -44.9% ต่อปี ตามลำดับ ลดลงทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย ด้านอุปสงค์ขยายตัวจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ที่ขยายตัว 8.5% ต่อปี และรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 2.7% ต่อปี สอดคล้องกับรายได้เกษตรขยายตัว 8.8% ต่อปี

นอกจากนี้ การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวโดดเด่นจาก เงินลงทุนในโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ 889.1 ล้านบาท ขยายตัว 26.8% ต่อปี จากการลงทุนในโรงงานผลิตถุงมือและลูกโป่งจากยางพาราจำนวน 423.4 ล้านบาทในจังหวัดพัทลุง เป็นสำคัญ รวมถึงจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ยังขยายตัว 5.4% ต่อปี ส่วนเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ 0.3 ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือน ม.ค.63 ลดลงมาอยู่ที่ 1.4%

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยว แต่ยังขยายตัวได้จาก การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัว พบว่าเครื่องชี้ด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลง สะท้อนจากผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน ลดลง -9.4% และ -9.8% ต่อปี ตามลำดับ โดยลดลงทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย

อย่างไรก็ดี ด้านอุปสงค์ภายในประเทศมีสัญญาณการขยายตัวจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้าทั่วไป สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัว 4.2% ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.8% ต่อปี ขณะที่ การบริโภคในหมวดสินค้าคงทนชะลอตัว สะท้อนจากรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ยังลดลง -10.8% และ -9.5% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง –17.6% และ -3.1% ต่อปี ตามลำดับ

เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรขยายตัว จากเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการอยู่ที่ 5,032.2 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 710.3% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง -21.7% ต่อปี จากการลงทุนในโรงสีข้าวในจังหวัดบุรีรัมย์เป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี รถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ยังลดลง -15.9% และ -7.3% ต่อปี ตามลำดับ ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง -17.2% และ -16.1% ต่อปี อย่างไรก็ดี ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ 1.6% ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือน ม.ค.63 อยู่ในระดับต่ำที่ 0.9%

  • กทม.และปริมณฑล ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยว แต่ยังสามารถขยายตัวได้จากการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกร ที่ขยายตัว พบว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งจำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือน โดยลดลงที่ -50.1% และ -51.3% ต่อปี ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง -1.2% และ -3.2% ต่อปี ตามลำดับ ลดลงทั้งชาวต่างชาติและคนไทย ขณะที่ด้านอุปสงค์ภายในประเทศสามารถขยายตัวได้จากการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกร ที่ขยายตัว 4.2% และ 14.7% ต่อปี ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี การบริโภคในหมวดสินค้าคงทนลดลงจากรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ที่ชะลอต่อเนื่องมาอยู่ที่ -10.0% และ -1.5% ต่อปี ตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินลงทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการและได้รับอนุญาตประกอบกิจการ ลดลง -54.3% และ -24.0% ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ลดลง -14.6% และ -6.3% ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ 0.6% ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือน ม.ค.63 อยู่ในระดับต่ำที่ 0.9%

  • ภาคตะวันตก ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยว แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาคเอกชน จากเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มและได้รับอนุญาตประกอบกิจการที่ขยายตัวได้ดี พบว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งจำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือน โดยลดลง -24.5% และ -29.4% ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยสนับสนุนจาก เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่สะท้อนการขยายตัวได้ดีจากเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการและเงินลงทุนได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการซึ่งกลับมาขยายตัวที่ 643.4% และ 25.6% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง -5.2% ต่อปี -48.3% ต่อปี ตามลำดับ

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ จากการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนกลับมาขยายตัว จากรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 5.4% ต่อปี อย่างไรก็ดี การจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าของประชาชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ลดลงต่อเนื่องที่ -10.8% ต่อปี ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นอยู่ที่ 0.5% ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือน ม.ค.63 อยู่ในระดับต่ำที่ 0.7%

  • ภาคกลาง ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยว แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากด้านอุปสงค์ ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ รายได้เกษตรกร และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัว พบว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งจำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือน โดยลดลงที่ -33.4% และ -34.4% ต่อปี ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยสนับสนุนจากด้านอุปสงค์ ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคง ขยายตัว 15.1% ต่อปี สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่ขยายตัว 0.7% ต่อปี ในขณะที่ การบริโภคในหมวดสินค้าคงทนลดลง สะท้อนจากรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ลดลง -23.8% และ -11.0% ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ การลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 24.3% ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าขยายตัว 12.5% ต่อปี สำหรับด้านเสถียรภาพภายใน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่อยู่ที่ 0.4% ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือน ม.ค.63 อยู่ที่ 2.0%

  • ภาคเหนือ ได้รับผลกระทบในภาคการท่องเที่ยว แต่ยังสามารถขยายตัวได้จากการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ที่ขยายตัว พบว่า ด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน สะท้อนจากผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน ลดลง -18.3% และ -25.8% ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง -2.3% และ -4.4% ต่อปี ตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวได้ที่ 2.4% ต่อปี อย่างไรก็ดี รถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ลดลง -10.6% และ -6.1% ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรลดลง -10.2% ต่อปี

ด้านเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนลดลงทั้งจากการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรและก่อสร้าง สะท้อนจากเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการ ลดลง -66.4% และ -71.1% ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ จำนวนรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ -17.1% และ -16.3% ต่อปี ตามลำดับ สำหรับ ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้นที่ 1.2% ต่อปี และอัตราว่างงานในเดือน ม.ค.63 อยู่ในระดับต่ำที่ 1.0%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ