น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการใช้เงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อการเพิ่มทุนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในปีบัญชี 2563 จำนวน 6,000 ล้านบาท เพื่อให้ ธ.ก.ส. มีเงินทุนเพียงพอในการให้บริการสินเชื่อแก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร สามารถรองรับการขยายงานด้านการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก เช่น การส่งเสริม Smart Farmer การพัฒนาผู้ประกอบการ SME วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม กองทุนหมู่บ้าน สหกรณ์การเกษตร และสร้างความมั่นคงทางการเงินและความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้เสนอแผนการขยายทุนเรือนหุ้น จำนวน 20,000 ล้านบาท โดยการเพิ่มทุนปีบัญชี 2563 จำนวน 6,000 ล้านบาท และปีบัญชี 2564 - 2567 ปีละ 3,500 ล้านบาท โดยแผนการใช้เงินทุนในปีบัญชี 2563 ได้ตั้งเป้าหมายการขยายสินเชื่อ จำนวน 1.01 แสนล้านบาท โดยในส่วนนี้เป็นการขยายสินเชื่อเพิ่มเติมจากแผนงานปกติ รวมวงเงิน 50,000 ล้านบาท จำนวน 7 โครงการ ดังนี้
1) โครงการสินเชื่อ Smart Farmer สร้างไทย วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท
2) โครงการสินเชื่อฉุกเฉิน/ฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต สำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง ปี 2563 วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท
3) โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง ปี 2563 วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท
4) โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท
5) โครงการสินเชื่อร้านค้าชุมชนภายใต้ธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท
6) โครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพสถาบันการเกษตรในการดำเนินธุรกิจ วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท
7) โครงการสินเชื่อต่อยอด SME เกษตรหัวขบวน วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนในปีบัญชี 2563 ของ ธ.ก.ส. จะส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) เท่ากับร้อยละ 11.86 ซึ่งอยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด