สหภาพยุโรป หรือ อียู ได้เรียกร้องให้มีการประกาศใช้มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดกับทั้งผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้า เพื่อให้เกิดการผลิตพลังงานชีวภาพที่ยั่งยืน
"ชาวยุโรปจะไม่จ่ายเงินจำนวนมากสำหรับพลังงานชีวภาพ หากยุโรปไม่สามารถผลิตเอธานอลในรถยนต์ได้เองอย่างยั่งยืน และผลิตพลังงานด้วยการเผาพื้นที่เพาะปลูกอย่างเป็นระบบหลังการเก็บเกี่ยว หรือการทำลายป่าเขตร้อน" ปีเตอร์ แมนเดลสัน คณะกรรมการการค้าอียู กล่าวในการประชุมพลังงานชีวภาพที่กรุงบรัสเซลส์
"เราเรียกร้องให้มีการวางแผนที่ยั่งยืนในสหภาพยุโรป และที่อื่นๆ เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตมีกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน ซึ่งกฎเกณฑ์เหล่านี้จะนำมาใช้กับทั้งผู้นำเข้าและผู้ผลิตในประเทศ" เขากล่าวเสริม
นักสิ่งแวดล้อมต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการใช้พลังงานชีวภาพเพื่อสนองตอบอุปสงค์พลังงานโลก แม้ว่า พลังงานชีวภาพจะได้รับการยอมรับว่า เป็นแหล่งพลังงานสีเขียวที่สำคัญก็ตาม ทว่า ผลกำไรมหาศาลได้ผลักดันให้มีการผลิตจนนำไปสู่หนทางแห่งการทำลายสิ่งแวดล้อม โดยมีการใช้พื้นที่ป่าเขตร้อนและพื้นที่เพาะปลูกจำนวนมาก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมาชิกอียูได้เห็นพ้องเมื่อเดือนมีนาคมให้มีการใช้พลังงานของยานพาหนะอย่างน้อย 10% จากพลังงานชีวภาพภายในปี 2563 เพื่อกระจายอุปทานพลังงาน และต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
ทั้งนี้ แมนเดลสัน กล่าวว่า ยุโรปจะนำเข้าพลังงานชีวภาพส่วนใหญ่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยอียูจะกำหนดนโยบายการค้าพลังงานชีวภาพจากผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อม และจะไม่มีการตัดสินล่วงหน้าอย่างไม่ยุติธรรมกับผู้ส่งออกต่างชาติ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--