โพลล์หอการค้าจี้รัฐแก้ 3 ปัญหา บาทแข็ง-น้ำมันแพง-การเมืองไม่นิ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 20, 2007 15:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจ พบว่าสิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดในขณะนี้และต้องการให้รัฐบาลแก้ไขอย่างเร่งด่วน คือ ปัญหาเงินบาทแข็งค่า, ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง และปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง
สาเหตุที่ผู้ประกอบการมองว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้เป็นปัญหาสำคัญที่สุด เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อกำไรและยอดขายของผู้ประกอบการ รวมทั้งความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการแบกรับภาระขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขให้ค่าเงินมีเสถียรภาพและไม่ผันผวนมากจนเกินไปจนไม่สามารถวางแผนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพได้
ในขณะที่ปัญหาราคาน้ำมันนั้นเป็นต้นทุนที่สำคัญของการผลิต ซึ่งผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลทำให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ เพื่อสามารถควบคุมต้นทุนและวางแผนได้ เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่วนปัญหาทางการเมืองที่ไม่แน่นอนนั้น ผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการวางแผนการลงทุนใหม่ ทำให้เกิดการชะลอการลงทุนในประเทศ
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการกว่า 50% เชื่อว่าในปี 50 ประเทศไทยจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ที่ 3.5-4.5% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจมีการมองภาวะเศรษฐกิจของประเทศในมุมมองที่ดีขึ้นหลังจากที่สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีทิศทางที่ชัดเจน
สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อรัฐบาลใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ ขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเงินบาทแข็งค่า, ปัญหาการว่างงาน และปรับค่าครองชีพให้เหมาะสม ด้านสังคม ขอให้รัฐบาลเน้นเรื่องการศึกษาเพิ่มมากขึ้น, เพิ่มการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และช่วยเหลือคนยากจนให้มากขึ้น และด้านการเมือง ขอให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด, แก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการสร้างความสามัคคีภายในประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ