เวียดนามเผยยอดขาดดุลการค้า 7 เดือนแรกปี 50 พุ่งแตะ 5.45 พันล้านดอลล์

          ทางการเวียดนามเปิดเผยว่า เวียดนามมียอดขาดดุลการค้าพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ หลังจาก 7 เดือนแรกของปีนี้เวียดนามมียอดขาดดุลการค้ากับสหรัฐอยู่ที่ 5.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับตัวสูงกว่ายอดขาดดุลการค้าตลอดทั้งปี 2549 ที่มียอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 5.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ                   
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ยอดนำเข้าสินค้าของเวียดนามขยายตัวแซงหน้าการส่งออกไปมาก เนื่องจากขณะนี้เวียดนามส่งคำสั่งซื้อเครื่องมือเครื่องจักร ชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึงเชื้อเพลิง และสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ประเภทโลหะเพิ่มมากขึ้น      
          สำนักงานสถิติของเวียดนาม(GSO) คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ค. ยอดนำเข้าของเวียดนามจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 29.8% แตะที่ 3.224 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดส่งออกปรับตัวสูงขึ้น 19.6% อยู่ที่ 2.679 หมื่นล้านดอลลาร์
          "ทางสำนักงานคาดว่าตัวเลขขาดดุลการค้าของเวียดนามจะปรับตัวสูงขึ้นในปลายปีนี้" สำนักงานสถิติระบุ "โดยยอดนำเข้าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากอุปสงค์ด้านวัตถุดิบที่เวียดนามจำเป็นต้องนำเข้ามาเป็นจำนวนมากเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น"  
          ด้านกระทรวงการค้าได้คาดการณ์ในเดือนนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของเวียดนามในปีนี้อาจพุ่งขึ้นแตะ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่รับได้สำหรับประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาจนสามารถก้าวขึ้นเป็นสมาชิกในองค์การการค้าโลก
          "เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ยอดขาดดุลการค้าของเวียดนามปรับตัวสูงขึ้นนั้น เป็นเพราะเวียดนามมีขีดจำกัดในการพัฒนาคุณภาพและการแข่งขันด้านการผลิตสินค้าในประเทศ ซึ่งทำให้เวียดนามไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศได้" ทางการเวียดนามระบุ