หน่วยงานด้านการวิจัยภาคเอกชนของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า อัตราการล้มละลายของบริษัทญี่ปุ่นในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ปรับตัวสูงขึ้น 6.4% จากปีก่อนหน้านี้ คิดเป็นจำนวน 7,056 แห่ง ซึ่งพุ่งขึ้นสูงกว่า 7,000 แห่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของสถาบันวิจัยโตเกียว โชโกะ รีเสิร์ชว่า ตัวเลขหนี้สินของบริษัทที่ล้มละลายปรับตัวลดลง 9.3% แตะที่ระดับ 2.65 ล้านล้านเยน ซึ่งนับเป็นตัวเลขหนี้ที่ลดลงต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2534
จำนวนบริษัทที่ประสบภาวะล้มละลายยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น และการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นอกจากนี้ จำนวนของบริษัทขนาดใหญ่ที่ล้มละลายมีหนี้สินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านเยน ซึ่งปรับตัวลดลงอย่างมากถึง 33.3%
ทั้งนี้ การรายงานของหน่วยงานวิจัยดังกล่าวครอบคลุมบริษัทที่ล้มละลายที่ยังคงมีหนี้สินคั่งค้างจำนวน 10 ล้านเยนขึ้นไป
ธุรกิจที่ประสบภาวะล้มละลายปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 7 กลุ่ม จาก 10 กลุ่มธุรกิจที่หน่วยงานดังกล่าวเฝ้าจับตาอยู่ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจด้านการโทรคมนาคม การบริการ ธุรกิจค้าส่ง อุตสาหกรรมการผลิต การค้าปลีก ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจด้านการเกษตร ป่าไม้ ประมง และเหมืองแร่
ขณะที่ภาคธุรกิจที่ประสบภาวะล้มละลายที่ปรับตัวลดลงจำนวน 3 ประเภท ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการเงินและประกันภัย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรมการขนส่ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--