สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของชาวจีนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวแข็งแกร่งมากขึ้น ขณะที่ยอดการลงทุนชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีแรก
นายหลี่ เสี่ยวเชา โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนด้านสินทรัพย์คงที่ของจีนในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ทรุดตัวลง 3.9% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดค้าปลีกในช่วงครึ่งแรกขยายตัวขึ้น 15.4% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
"ยอดการบริโภคเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้น 11.5% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ และความเคลื่อนไหวด้านอุปสงค์ภายในประเทศที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้" นายลี่กล่าว
นายหลี่ ให้เหตุผลว่า ตัวเลขการบริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการขยายตัวด้านรายได้และการใช้จ่ายของชาวจีนที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของกลุ่มผู้ประกอบการชาวจีนที่สดใสในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประกอบการการให้เงินช่วยเหลือของภาครัฐบาลแก่ประชากรที่มีรายได้ต่ำและเกษตรกร รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานในเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นได้มีส่วนช่วยให้รายได้ของประชาชนในเมืองและชนบทปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จากการที่รัฐบาลจีนได้ให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา สาธารณสุข และที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ทำให้ประชาชนมีแนวโน้มที่จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งภาวะเช่นนี้ส่งผลให้ยอดขายยานยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค ที่อยู่อาศัย และเฟอร์นิเจอร์ ปรับตัวสูงขึ้นตามมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--