สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า ราคาขายปลีกทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศเช้านี้ เมื่อเวลา 09.35 น. ปรับเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้บาทละ 200 โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 26,000.00 ขายออกบาทละ 26,200.00 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 25,529.44 ขายออกบาทละ 26,700.00
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร หลังจากราคาทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดปีนี้ครั้งใหม่ในวันทำการก่อนหน้า ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังนักลงทุนกลับเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลยอดค้าปลีกและภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐออกมาย่ำแย่เกินคาด แสดงถึงความรุนแรงของกิจกรรมเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงจากการระบาดของโควิด-19
โดยยอดค้าปลีกสหรัฐดิ่งลงเกินคาดถึง -8.7% ในเดือนมี.ค. ดิ่งลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลเริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 1992 ส่วนดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงเกินคาดเช่นกันแตะระดับ -78.2 ซึ่งต่ำกว่าระดับ -34.3 ที่ทำไว้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรับตัวลดลงในกรอบจำกัด เพราะตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่เกินคาดนั่นบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ยังมีความจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินต่อไป เพื่อฟื้นฟูความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งจะยังคงสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกแก่ราคาทองคำ จึงมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาทองคำเอาไว้ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มวานนี้อีก +4.10 ตัน
สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การอนุญาตก่อสร้างและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน