นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.54/59 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทแข็งค่าจากท้ายวันศุกร์ ตลาดยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และช่วงวันหยุดมีทั้ง ความหวังเรื่องการปลอดล็อคดาวน์ทั้งในไทยและสหรัฐฯ แต่พอดีช่วงสุดสัปดาห์ก็มีข่าวว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะตอบโต้จีนถ้าพิสูจน์ได้ว่า ไวรัสชนิดนี้หลุดออกมาจากแล็บในเมืองอู่ฮั่นจนทำให้ทั่วโลกเดือดร้อน เลยทำให้การเปิดรับความเสี่ยงยังคงเปราะบาง"นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า กรอบความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 32.40 - 32.50 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (17 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.16717% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.08703%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.4725 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.83 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 107.90 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0858 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.0814 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5370 บาท/ดอลลาร์
- "ธปท." ทบทวนแผน ออกหลักเกณฑ์คิด "ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียม" ทั้งระบบ เพื่อให้แบงก์ใช้เป็นแนวปฏิบัติ จากเดิมคาด
- ทีดีอาร์ไอเสนอแนวทางผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ชูใช้แผนผสมผสาน ย้ำสถานที่แออัด ผับ บาร์ โรงหนัง คอนเสิร์ต
- โควิดกระเทือนท่องเที่ยวไทย ดับฝันพยุงเศรษฐกิจไทย "สทท." คาดปี 63 ทำรายได้ 5% ของจีดีพีก็เก่งแล้ว "ททท."
- โควิด-19 เร่งขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสด "ไทยพาณิชย์" ชี้ธุรกรรมโมบายแบงกิ้งพุ่ง ลุยพลิกวิกฤติเป็นโอกาสมุ่งสู่ "เทคคัม
- กสทช.-โอเปอเรเตอร์ จ่อสรุปมาตรการช่วยเหลือ ปชช. คาดจบที่ให้โทร.ฟรีบนในเครือข่าย 100 นาที โทร.ฟรีนอก
- รมว.พลังงาน รับทราบข้อร้องเรียนค่าไฟแพงช่วงโควิด-19 คาดทำงานอยู่บ้านปัจจัยทำค่าไฟพุ่งช่วง "หยุดเชื้อ เพื่อ
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ลง 0.2% สู่ระดับ 3.85%
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนมี.ค.ร่วงลง 11.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า
ส่วนยอดนำเข้าในเดือนมี.ค.ลดลง 5% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 4.9 พันล้านเยน หรือ ประมาณ 45.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ประเทศต่างๆ ทั่วโลกดำเนินมาตรการด้านการคลังและการอัดฉีด
สภาพคล่อง คิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 14 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะลดผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาด
ของไวรัสโควิด-19