นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบในเม.ย. มีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำ เนื่องจากตลาดยังกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกที่ชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกหดตัว หลังรัฐบาลในหลายประเทศประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และประเทศในทวีปยุโรป ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ซาอุดีอาระเบีย เองยังประกาศลดราคาขายน้ำมัน (Official selling price) ของตนเองลงต่อเนื่อง ทั้งยังประกาศว่าการลดกำลังการผลิตจะเริ่มขึ้นในเดือน พ.ค. 63 ส่งผลให้อาจมีอุปทานน้ำมันดิบในระดับสูงจากซาอุดีอาระเบีย ที่จะเข้ามาในตลาดในเดือนดังกล่าว โดยมีปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ที่ทำให้มีการปิดเมืองส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันโลก และมุมมองของนักลงทุนในตลาดที่มองว่า แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรจะร่วมลดปริมาณการผลิตในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 63 แต่อาจไม่เพียงพอที่จะชดเชยอุปสงค์ที่หายไปได้
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกในช่วง วันที่ 13-19 เม.ย.63 พบว่าราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยความต้องการลดลงต่ำสุดในรอบ 25 ปี และรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ เพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้านค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.14 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 32.8370 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ต้นทุนน้ำมันเบนซินลดลง 0.39 บาท/ลิตร ขณะที่ต้นทุนน้ำมันดีเซลลดลง 0.80 บาท/ลิตร ทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.13 บาท/ลิตร และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.78 บาท/ลิตร
ด้านฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 19 เม.ย. 63 กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 57,216 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 21,258 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ อยู่ที่ 35,958 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน 41,740 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) -5,782 ล้านบาท