ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบปอนด์ จากกระแสคาดอังกฤษเล็งขึ้นดบ.

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 2.0165 ดอลลาร์ต่อปอนด์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ระดับ 2.0173 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ขณะที่ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.3623 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1.3637
          ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปจะประชุมเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% และคาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ 
          การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้เป็นกลยุทธ์ในการสกัดกั้นเงินเฟ้อ แต่จะเป็นปัจจัยบวกต่อสกุลเงิน เพราะการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินนั้นๆมีมูลค่าสูงขึ้นและน่าดึงดูดใจมากขึ้น
          เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐได้ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับเดิมที่ 5.25% ซึ่งเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 8 ครั้ง 
          นายเดวิด โซลิน นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติกส์ กล่าวว่า "ดอลลาร์อ่อนตัวลงเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งในอังกฤษและยุโรป และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอลง"
          "นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยลบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีของสหรัฐที่อ่อนตัวลง และวอลุ่มการซื้อขายดอลลาร์ที่มีอยู่เพียงบางเบา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายลงก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐ (4 ก.ค.)" นายโซลินกล่าว
          ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแม้เกิดความหวั่นวิตกเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้าย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เกิดเหตุผู้ก่อการร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ในกรุงลอนดอนและพยายามโจมตีสนามบินในเมืองกลาสโกว์ของสก็อตแลนด์
          ส่วนค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นหลังจาก วีดีเอ็มเอ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมของเยอรมนีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรในเยอรมนีพุ่งขึ้น 18% ในเดือนพ.ค. โดยเยอรมนีเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในสุดในทวีปยุโรป
          ขณะที่ดอลลาร์กลับไม่ได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) ที่ระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมด้านการผลิตในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 56.0 จุด จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 55.0 จุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 55.0 จุด
          นอกจากนี้ ดอลลาร์อ่อนตัวลงแตระดับ 122.32 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 123.14 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (ทังกัน) ไตรมาส 2 ที่ทรงตัวจากไตรมาสแรก และจากการคาดการณ์ที่ว่า ผลสำรวจทังกันไตรมาส 2 จะไม่ทำให้บีโอเจล้มเลิกความตั้งใจที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้