(เพิ่มเติม) คลัง เชื่อศก.ไทยผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/50 แล้ว คาดขยายตัวใกล้เคียง 4%

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 26, 2007 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          กระทรวงการคลัง คาดว่าเศรษฐกิจไทยมาถึงจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/50 แล้วและจากนี้จะเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 2/50 สูงกว่าที่คาดไว้ อาจจะใกล้ระดับ 4% เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนยังเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าทุนที่เริ่มขยายตัวเป็นครั้งแรก ทำให้เห็นสัญญาณสำคัญการขยายตัวของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง 
นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในเดือนมิ.ย.50 และไตรมาส 2/50 การใช้จ่ายของรัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ควบคู่กับการส่งออกที่ขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม แม้การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวลดลง แต่เสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกยังอยู่ในเกณฑ์ดี
นางพรรณี กล่าวว่า เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการคลังแสดงถึงบทบาทของรัฐบาลในการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในภาวะที่อุปสงค์ภายในประเทศยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยรายจ่ายงบประมาณในเดือนมิ.ย.สามารถเบิกจ่ายได้รวมทั้งสิ้น 164.4 พันล้านบาท ขยายตัวถึง 40.1% ต่อปี
ขณะที่ไตรมาส 2/50 เบิกจ่ายได้ 417.3 พันล้านบาท ขยายตัว 36.3% ต่อปี โดยแบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 314.5 พันล้านบาท รายจ่ายลงทุน 86.7 พันล้านบาท และรายจ่ายเหลื่อมปี 16.2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชนในเดือนมิ.ย.และไตรมาส 2 ปีนี้ ยังคงชะลอลงต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ส่วนการส่งออกยังคงเติบโตได้ดีและเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
การส่งออกในช่วงไตรมาส 2/50 มีมูลค่า 36.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 19.1% การนำเข้ามีมูลค่า 34.8 พันล้านดอลาร์สหรัฐ ขยายตัว 7.3% เกินดุลการค้า 1,938.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เกินดุล 1938.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
ภาคบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในเดือนมิ.ย.50 มีจำนวน 1.02 ล้านคน ทำให้ไตรมาส 2/50 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 3.1 ล้านคน แม้จะลดลงจากไตรมาส 1/50 ที่มีจำนวน 3.8 ล้านคน แต่ก็เป็นไปตามฤดูกาลท่องเที่ยวปกติ
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการกลุ่มการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค สศค. กล่าวว่า เศรษฐกิจไตรมาส 2/50 น่าจะเติบโตใกล้เคียง 4% ซึ่งดีขึ้นกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ เพราะแม้การบริโภคจะชะลอตัวลง แต่การส่งออกและการลงทุนเติบโตดีกว่าที่คาดไว้ โดยการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรและภาคการก่อสร้างเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น
ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่คาดว่าในปีงบประมาณ 50 จะเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 93% จากที่ปัจจุบันสามารถเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 68%
ขณะที่ปัจจัยด้านต่างประเทศนั้น พบว่าดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีเกินดุลฯแล้ว 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังสูงถึง 7.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นถึง 3 เท่า แสดงให้เห็นว่าเงินทุนสำรองฯ เพียงพอต่อการรองรับหากมีเงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว
"ตอนนี้ทุนสำรอง 7.3 หมื่นล้านดอลล์ มากกว่าหนี้ระยะสั้น 3 เท่า ดูแล้วเมื่อเทียบกับสมัยวิกฤตปี 40 มันตรงข้ามกันที่ทุนสำรองฯน้อยกว่าหนี้ระยะสั้นถึง 3 เท่า แสดงให้เห็นว่าทุนสำรองที่มีอยุ่ตอนนี้ เพียงพอที่จะรองรับถ้าเงินไหลออกอย่างรวดเร็ว" นายเอกนิติ กล่าว
นายเอกนิติ กล่าวด้วยว่า หากมองปัจจัยภายในประเทศจะพบว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ โดยไตรมาส 2/50 อยู่ที่ 1.9% ลดลงจาก 2.5% ในไตรมาส 1/50 แสดงว่าแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อมีน้อย ประกอบกับอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ และสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลัง ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยทั้งในและนอกประเทศยังมีความมั่นคง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ