นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังผลักดันสินค้าทูน่ากระป๋องเข้าสู่บัญชีลดภาษีภายใต้กรอบข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA)อาเซียน-สหภาพยุโรป(EU) เพราะคาดว่าหลังจากสิ้นปีนี้ EU จะไม่เพิ่มโควตานำเข้าสินค้าดังกล่าวตามที่ไทยร้องขอ
เนื่องจากไทยมีสถิติการส่งออกทูน่ากระป๋องไป EU เพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่สถิติการส่งออกของประเทศในกลุ่ม ACP (แอฟริกา, แคริเบียน และแปซิฟิก) ลดลง ซึ่งแสดงว่าไทยไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่ EU ลดภาษีปลาทูน่ากระป๋องเหลือ 0% ให้กับกลุ่ม ACP ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยในตลาด EU จึงเป็นไปได้ว่า EU อาจไม่ให้โควตานำเข้าแก่ไทยเป็นการชดเชยอีกต่อไป
ปัจจุบัน EU ให้โควตาสินค้าทูน่ากระป๋องจากไทย 27,500 ตัน ภาษีในโควตา 12% นอกโควตา 24% และขณะนี้ EU อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อทบทวนการให้โควตาชดเชยสินค้าดังกล่าวกับไทย ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.50
อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้ ผู้ส่งออกได้ร้องขอให้กระทรวงพาณิชย์เจรจากับ EU เพื่อขอขยายโควตาส่งออกเนื้อทูน่าแทน จากปี 49 ที่ไทยได้โควตาส่งออกไปอียู 5,000 ตัน ภาษีในโควตา 6% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 48 ที่ได้โควตาเพียง 4,000 ตัน ภาษีในโควตา 6% เช่นกัน
สำหรับการให้โควตาชดเชยสินค้าทูน่ากระป๋องเป็นไปตามข้อตกลงโคโตนู เพื่อชดเชยกรณีที่ EU ลดภาษีสินค้าทูน่ากระป๋องเหลือ 0% ให้กับกลุ่มACP เมื่อปี 46 ทำให้ไทยในฐานะผู้ส่งออกปลาทูน่ารายใหญ่ไปตลาด EU ได้รับผลกระทบจนต้องเจรจาชดเชยความเสียหาย โดย EU ให้โควตาส่งออกแก่ไทย 27,500 ตัน อัตราภาษีในโควตา 12% และนอกโควต้า 24% สิ้นสุดสิ้นปี 50 ซึ่งหาก EU จะต่อสิทธิการลดภาษีให้กับกลุ่ม ACP ก็จะต้องให้การชดเชยกับไทยต่อไปด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--