ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0-0.25% สำหรับการประชุมนโยบายการเงินที่จะมีขึ้นในวันที่ 28-29 เม.ย.นี้ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ น่าจะยังไม่มีความจำเป็นในช่วงนี้ เนื่องจากเฟดคงรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดและภาวะเศรษฐกิจหลังจากที่ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ไปแล้ว
นอกจากนี้ การตัดสินใจยังขึ้นอยู่กับมุมมองของเฟดต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า หากเฟดประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะสามารถควบคุมได้ในระยะอันใกล้ และสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ตามมาได้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็จะจำกัดในปีนี้ โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถกลับมาฟื้นตัวในระดับสูงได้ในปีหน้า
การปรับดอกเบี้ยเป็นอัตราติดลบจึงอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมและจำเป็นภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากการปรับอัตราดอกเบี้ยลงเป็นอัตราติดลบจะสะท้อนมุมมองของเฟดต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่ามีแนวโน้มไปในเชิงลบมากขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะก่อให้เกิดความวิตกกังวลในตลาด และมีผลต่อเสถียรภาพในภาคการเงิน
อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยืดเยื้อไปกว่าที่ประเมิน และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้อ่อนแรงลงไปอีก เฟดน่าจะเลือกทำ QE เพิ่มเติมจากการประกาศวงเงินที่ไม่จำกัด เพื่อเสริมสภาพคล่องและสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ควบคู่ไปกับมาตรการทางการคลังที่อาจจะมีเพิ่มเติม