นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังว่า มีปัจจัยบวก ได้แก่ ความชัดเจนทางการเมือง การใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ซึ่งจะส่งผลให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก โดยการบริโภคและการลงทุนคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐบาล ธุรกิจ และประชาชน
อย่างไรก็ดี ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงอันประกอบด้วย ภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวลง ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นต่อเนื่อง และค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าขึ้น
จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2550 น่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.8-4.3 โดยมีการส่งออกและการใช้จ่ายภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ
ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกของปี 2550 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 4.3 เท่ากับไตรมาสที่ 4 ของปีก่อน เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการเกษตร ภาคการบริการบางสาขา และภาคการส่งออก อย่างไรก็ดีการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนมีการชะลอตัวและหดตัวลงมาก ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น โจทย์ในระดับมหภาค (Macro) ของรัฐบาลคือการใช้นโยบายการคลังและการเงินเพื่อการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน ควบคู่ไปกับการรักษาเป้าหมายการส่งออก และจากสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะใกล้หรือผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--