COVID-19ครม.เห็นชอบหลักการร่างแถลงการณ์ รมต.การค้าเอเปค เรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 5, 2020 17:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปค เรื่องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก พร้อมทั้งให้ รมว.พาณิชย์ หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ดังกล่าว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

ทั้งนี้ ในร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปค เรื่องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1) ตระหนักถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งการเปิดตลาดและการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมด้านการค้าและการลงทุนเสรี เป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติ โปร่งใส คาดการณ์ได้ และมีเสถียรภาพ

2) สนับสนุนการอำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายของสินค้าและบริการ โดยเฉพาะยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ สินค้าเกษตร สินค้าอาหาร หรืออุปกรณ์ที่จำเป็น เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาด และไม่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก โดยยังคงความเชื่อมโยงทางการค้า และแสวงหาแนวทางในการอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายบุคคลากรทางสาธารณสุขและนักธุรกิจที่มีความสำคัญโดยไม่ลดทอนความพยายามในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19

3) ตระหนักถึงการใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และมาตรการเหล่านี้จะต้องเป็นมาตรการชั่วคราว เฉพาะเจาะจง และเหมาะสม โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้าโดยไม่จำเป็น รวมถึงตระหนักถึงความจำเป็นในการแจ้งมาตรการเหล่านี้ให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์องค์การการค้าโลก

4) สนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขอย่างยั่งยืน ยืดหยุ่นและมั่นคง และการใช้นโยบายช่วยเหลือสำหรับภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับการจ้างงานอีกครั้ง

5) สนับสนุนให้เขตเศรษฐกิจเอเปคดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกเพื่อเร่งฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคจัดทำแนวทางความร่วมมือเพื่อรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการที่รับมือโรคติดเชื้อโควิด-19 และผลกระทบเพื่อนำไปสู่แนวทางปฏิบัติที่ดีของเอเปค โดยคำนึงถึงคำแนะนำจากสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค

6) ตระหนักถึงความร่วมมือกับพันธมิตรในเวทีระหว่างประเทศ รวมถึงภาคเอกชนและภาควิชาการ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างสร้างสรรค์มีนวัตกรรม และทันท่วงที

7) ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานโลกให้มีความยืดหยุ่น และไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

8) ตระหนักถึงความสำคัญเศรษฐกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีผ่านการใช้ประโยชน์จากแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยในการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศและการค้าข้ามพรมแดนอย่างไร้รอยต่อ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบในวงกว้างจากการแพร่ระบาดในอนาคต

9) ส่งเสริมให้เอเปคมีวาระด้านดิจิทัล รวมทั้งพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการค้าบริการที่เกี่ยวเนื่อง โดยใช้มุมมองใหม่ และเครื่องมือเชิงนวัตกรรมเพื่อนำไปสู่สิ่งใหม่ร่วมกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ