ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน เปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนิงานจ่ยสิทธิประโชรณีว่านเนื่องจากเหตุสุดวิสัยในกรณีที่ลูกจ้างผู้ประกันตน ไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงาน อันเนื่องมาจากสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-9 หรือเนื่องจากนายจ้างหยุดประกอบกิจการเอง หรือหยุดประกอบกิจการตามคำสั่งของทางราชการ ซึ่งทำให้ผู้ประกันตนได้รับผลกระทบ และไม่ได้รับค่าจ้างสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ได้รับคือ สิทธิกรณีว่างงาน 62% ของค่าจ้างรายวันไม่เกิน 90 วัน
จากการได้ลงพื้นที่เร่งรัดให้ดำเนินกาจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยนั้นแล้วเสร็จ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้าง ผู้ประกันตน นั้น สำนักงานประกันสังคมได้ทยอยจ่ายเสร็จสิ้นไปกว่าครึ่งจากจำนวนผู้มีสิทธิ ณ วันที่ 5 พ.ค.63 จำนวน 990.523 ราย เจ้าหน้าที่วินิจฉัยอนุมัติแล้วจำนวน 492,273 ราย เป็นงินจำนวน 2,563.612 ล้านบาท ในเรื่องนี้ได้สั่งการให้ดำเนินการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้แล้วเสร็จงวดแรก ภายในวันที่ 15 พ.ค.63
สำหรับในกรณีที่สถานประกอบการที่หยุดประกอบกิจการชั่คราว และไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สำนักงานประกันสังคมขอให้สถานประกอบการกลุ่มดังกล่าวเร่งดำเนินการรับรองการหยุดของลูกจ้าง ซึ่งพบว่ามีผู้ประกันตน จำนวน 289,104 ราย ที่รอนายจ้างเข้ามารับรองสิทธิ สถานประกอบการกลุ่มนี้จะได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน รวมทั้งได้รับหนังสือแจ้งเตือนจากสำนักงานประกันสังคม เร่งรัดให้เข้ามารับรองการหยุดงานของลูกจ้าง ภายในวันที่ 8 พ.ค.63
ในส่วนกรณีลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่ได้รับการวินิจฉัยปฏิเสธไม่ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย นั้น สำนักงานประกันสังคม ได้เตรียมความพร้อมรองรับข้ออุทธรณ์จากผู้ที่ได้รับการปฏิเสธสิทธิดังกล่าว โดยมีคณะกรรมการอุทธรณ์ในการร่วมพิจารณาวินิจฉัยให้กับผู้ที่ได้รับการปฏิเสธการขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยแล้ว อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ประกันตนที่ได้รับการปฏิเสธสิทธิดังกล่าว รีบยื่นอุทธรณ์ต่อสำนักงานประกันสังคมโดยทันที