พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รมว.คลัง และผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้รายงานให้ทราบในช่วงเช้าวันนี้ว่าขณะนี้ทางการสามารถรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไว้ได้ในระดับหนึ่งแล้ว หลังจากที่ได้มีการออกมาตรการแก้ไขปัญหาบาทแข็งค่าในช่วงต้นสัปดาห์ และจะดูแลไม่ให้เกิดความผันผวน
"มีข้อยุติจากผู้ว่าฯว่าในสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้าจะสามารถรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไว้ได้ โดยจะดูแลไม่ให้เกิดความผันผวน"นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือ
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดที่จะออกมาตรการมาแก้ปัญหาการแข็งค่าของเงินบาทเพิ่มเติมอีกในขณะนี้ เพราะจะต้องประเมินสถานการณ์ส่วนต่าง ๆ หลังจากที่ได้ออกมาตรการไปแล้ว
แต่ในช่วงต่อจากนี้จะต้องมีการดำเนินการมาตรการระยะปานกลางหรือระยะยาวที่จะให้ความสำคัญการดูแลภาคอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม(SME)ให้มากขึ้น โดยกระทรวงการคลังจะประสานงานกับคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)เพื่อรวบรวมสภาพปัญหาและจัดกลุ่มเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
ส่วนการจัดตั้งกองทุนขนาด 5 พันล้านบาทขึ้นมาให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องกับธุรกิจ SME นั้น ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ก็เริ่มมีมีผู้สนใจขอใช้วงเงินเข้ามาบ้างแล้ว
พล.อ.สุรยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้ประเมินว่าค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อไปแม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการมาดูแล และมีโอกาสแตะระดับ 32 บาทภายในปีนี้ว่า เป็นการประเมินของผู้ที่อยู่ภายนอก แต่ขณะนี้เห็นได้ชัดว่าเราสามารถรักษาเสถียรภาพของค่าเงินไว้ได้ในระดับหนึ่งแล้ว โดยทางการจะดูแลไม่ให้เงินบาทเคลื่อนไหวในลักษณะผันแปรมากเกินไป แต่การจะกำหนดว่าค่าเงินควรจะอยู่ที่ระดับใดคงไม่สามารถทำได้ โดยเฉพาะในขณะนี้สถานการณ์การเงินโลกมีความผันผวน
"เราไม่สามารถบอกได้ว่าเราควรจะอยู่ระดับไหน ก็เพียงแค่ดูแลไม่ให้เงินบาทผันแปรไปในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น"พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--