ผลจากการสำรวจแสดงให้เห็นว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรอยู่ในภาวะชะลอตัว อันเป็นผลมาจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง
สถาบัน Royal Institution of Chartered Surveyors (RICS) กล่าวว่า มีผู้สำรวจเพียง 10.6% ที่รายงานว่ามีส่วนต่างที่ได้เมื่อปรับราคาขึ้นในเดือนมิ.ย. ซึ่งลดลง 22.5% จากเดือนพ.ค. และมีค่าเฉลี่ยในระยะยาวอยู่ที่ 21.6% ตัวเลขล่าสุดนับเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2549
โพลล์สำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล ได้คาดการณ์ว่าจะมีการชะลอตัวลงอีกในอัตราปกติและอาจมากถึง 20%
นอกจากนั้นยังคาดการณ์ว่าความต้องการของผู้ซื้อจะลดลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เดือนก.พ.2549 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเริ่มมากเกินกว่าที่ผู้ซื้อบ้านเป็นครั้งแรกจะสามารถจ่ายได้ โดยความต้องการซื้อบ้านลดลงทั่วทุกภูมิภาค ยกเว้นในเวลส์, เวสท์ มิดแลนด์ และสก็อตแลนด์
ธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 5 ครั้งนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว ส่งผลให้ฐานดอกเบี้ยปรับขึ้นสู่ระดับ 5.75% นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี
นายเอียน เพอร์รี่ โฆษกของ RICS กล่าวว่า "ในที่สุดราคาบ้านก็ชะลอความร้อนแรงลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเกิดยุคทองของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2549"
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า "การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเริ่มส่งผลต่อจิตวิทยาด้านการตลาด ส่งผลให้ผู้ที่มีความสามารถในการซื้อบ้านรายใหม่เริ่มคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--