ธ.ก.ส.จับมือกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ร่วมพัฒนาจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร แก้ปัญหาภัยแล้ง สร้างความเข้มแข็งศก.ฐานราก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 12, 2020 11:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวภายหลังลงนามในบันทึกข้อตกลงความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้น้ำบาดาลเพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ว่า ธ.ก.ส. และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะดำเนินงานแบบบูรณาการร่วมกันในการคัดเลือกชุมชน องค์กรชุมชน ที่มีศักยภาพให้สามารถเข้าถึงโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ด้วยการสนับสนุนการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล สนับสนุนน้ำต้นทุน ในการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและสามารถนำไปบริหารจัดการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนใหม่จำนวน 10 ชุมชน และพัฒนากลุ่มผู้ใช้น้ำเดิม จำนวน 793 ชุมชน

นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังส่งเสริมอาชีพกลุ่มผู้ผลิตเพื่อก้าวสู่ธุรกิจชุมชนที่เข้มแข็งภายใต้สโลแกน "ตั้ง เติม ต่อ อนุรักษ์" โดยสนับสนุนการตั้งกลุ่มใหม่สำหรับชุมชนที่มีความพร้อมในการพัฒนา แต่ยังไม่มีกลุ่มเป็นรูปธรรม เติมสินเชื่อให้กับกลุ่มที่มีศักยภาพทางธุรกิจผ่านกระบวนการ ค้นหาโอกาสและศักยภาพของกลุ่มหรือชุมชน พร้อมจัดทำแผนธุรกิจ และผสานความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเพื่อเติมองค์ความรู้ เสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เติมสินเชื่อเพื่อพัฒนาสู่ธุรกิจชุมชน ต่อยอดธุรกิจ สำหรับกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจชุมชนและมีความเข้มแข็ง ให้ก้าวสู่ธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมการปลูกต้นไม้ภายใต้โครงการธนาคารต้นไม้และสนับสนุนการเติมน้ำลงสู่ดินภายใต้โครงการสร้างฝายชะลอน้ำเฉลิมพระเกียรติ (ฝายมีชีวิต) เพื่อสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศอย่างยั่งยืน ซึ่งคาดว่าจะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์จากโครงการไม่น้อยกว่า 8,000 ครัวเรือน

ด้านนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ภัยแล้งของประเทศไทยเกิดขึ้นเร็วกว่าทุกปี ทั้งทวีความรุนแรงและขยายพื้นที่ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและเกษตรกรเป็นจำนวนมาก เกิดสภาวะขาดแคลนน้ำ ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เล็งเห็นความสำคัญในภาคเกษตรกรรมมาโดยตลอด จึงได้ดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 โดยในปีนี้ได้ร่วมแก้ไขปัญหาให้กลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศมากกว่า 793 แห่ง โดยพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำบาดาลให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งคำนึงถึงการใช้พลังงานทางเลือก คือ พลังงานแสงอาทิตย์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

"ความร่วมมือกับ ธ.ก.ส.ในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคีการพัฒนาต่างๆ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ที่เคยเป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำ ให้กลายเป็นกลุ่มผู้ผลิตที่มีคุณภาพ สร้างความเข้มแข็งในระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน" นายศักดิ์ดา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ