นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอรายงานผลการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานสำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานอันเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ พ.ศ.2563 และกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ.2563
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้ออกกฎกระทรวงตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ กฎระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานอันเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ พ.ศ.2563 (มาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533) และกฎระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ.2563 (มาตรา 79/1 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533) โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 17 เม.ย.63
โดยมีจำนวนผู้มายื่นขอใช้สิทธิกรณีว่างงานเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.-7 พ.ค.63 จำนวน 1,028,334 ราย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มีการคัดกรองกรณียื่นซ้ำและกรณีที่ไม่ใช่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ออกแล้ว ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้พิจารณาวินิจฉัยสั่งจ่ายไปแล้วจำนวน 568,604 ราย เป็นเงิน 3,046 ล้านบาท สำหรับผู้ประกันตนที่ยังเหลืออยู่จำนวน 459,730 รายนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการ 313,445 ราย
ส่วนผู้ประกันตนที่ยังไม่มีหนังสือรับรองการหยุดงานจำนวน 146,285 ราย ซึ่งได้มีการประสานติดตามนายจ้างจำนวน 50,862 แห่ง พบว่า
1.นายจ้างยังคงประกอบกิจการ และยังมีการจ่ายค่าจ้างตามปกติจำนวน 3,029 แห่ง จำนวนลูกจ้าง 23,129 ราย
2.นายจ้างจ่ายเงินตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 จำนวน 1,066 แห่ง จำนวนลูกจ้าง 14,455 ราย
3.นายจ้างยังไม่ได้รับรองจำนวน 46,767 แห่ง จำนวนลูกจ้าง 108,701 ราย ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ระดมเจ้าหน้าที่จากกรมต่าง ๆ ประกอบด้วย กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ติดตามประสานงาน คาดว่าจะติดตามได้ภายในวันที่ 12 พ.ค.63
สำหรับการพิจารณาวินิจฉัยส่วนที่เหลือจำนวน 313,445 ราย ได้เพิ่มอัตราเจ้าหน้าที่วินิจฉัยจากเดิมที่มีจำนวน 600 คน เป็น 1,200 คน และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทั้งวันหยุดเสาร์อาทิตย์และนอกเวลาราชการทุกวัน ซึ่งได้สั่งการให้วินิจฉัยเพื่อให้มีการจ่ายเงินแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ค.63
อย่างไรก็ตาม สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เห็นประโยชน์ของลูกจ้างเป็นสำคัญและจะดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยจะแก้ไขปัญหาในส่วนของผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับเงินกรณีว่างงานให้ได้รับเงินอย่างถูกต้องและครบถ้วนโดยเร็วที่สุด