นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกช่วงวันที่ 4-10 พ.ค.63 ได้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายประเทศ เช่น อิตาลี เยอรมนี และสเปน และบางรัฐในสหรัฐฯ ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เคยบังคับใช้อย่างเข้มงวดในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
อีกทั้งตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการเริ่มปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร ที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 63 โดยซาอุดีอาระเบียยังประกาศอาสาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน รวมถึงการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ แคนาดา และนอร์เวย์ ที่อาจช่วยระบายน้ำมันดิบออกจากตลาดในปริมาณ 13-15 ล้านบาร์เรล/วัน
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัสเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 25.75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 23.45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 7.66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 7.69 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ
ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดภูมิภาคเอเชีย น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 และ 92 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 27.34 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 25.39 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 6.15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 5.79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ ส่วนน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 31.73 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 5.18 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.07 บาท/เหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 32.5400 บาท/เหรียญสหรัฐ ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.25 บาท/ลิตร ในขณะที่ต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 1.05 บาท/ลิตร ทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.75 บาท/ลิตร และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.51 บาท/ลิตร
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 10 พ.ค. 63 กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 56,993 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 21,701 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 35,292 ล้านบาท แยกเป็น บัญชีน้ำมัน 41,395 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) -6,103 ล้านบาท