โบอิ้งคาดสายการบินในเอเชียแปซฟิกจะทุ่มซื้อเครื่องบินกว่าล้านล้านดอลล์

          บริษัทโบอิ้งซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐคาดการณ์ว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้านี้ สายการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะลงทุนกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อเครื่องบินลำใหม่หลายพันลำให้รองรับกับความต้องการด้านการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีเครื่องบินใหม่ทั้งสิ้น 8,350 ลำในอีก 20 ปีข้างหน้า
          โบอิ้งคาดว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเป็นตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดในแง่ของมูลค่าการส่งมอบเครื่องบินใหม่ โดยคาดว่ามูลค่าการส่งมอบจะคิดเป็นสัดส่วน 36% หรือ 1.02 ล้านล้านดอลลาร์ ของมูลค่ารวม 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 20 ปีข้างหน้า ส่วนในระดับโลกนั้น คาดว่า สายการบินทั่วโลกจะซื้อเครื่องบินกว่า 28,600 ล้านลำในอีก 20 ปีข้างหน้า
          นายแรนดี้ ทินเสธ รองประธานฝ่ายเครื่องบินพาณิชย์ของโบอิ้งกล่าวว่า เศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วถือเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่ทำให้อุตสาหกรรมการบินในเอเชียเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันคาดว่าสายการบินในเอเชียแปซิฟิกจะซื้อเครื่องบินเพื่อให้บริการเช่าเหมาลำมากขึ้น 
          "เรามองว่าตลาดเอเชียแปซิฟิกมีอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดถึง 6.7% ต่อปี เนื่องจากตลาดแห่งนี้ยังคงมีการเปิดเสรีและมีการค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งการเปิดเสรีในภูมิภาคและทั่วโลกนั้น ทำให้สายการบินต่างๆสามารถให้บริการแบบที่ไม่ต้องแวะจอดมากขึ้น" นายทินเสธกล่าว
          "อุตสาหกรรมสายการบินสามารถขยายตัวขึ้นได้ด้วยการใช้เครื่องบินมากขึ้นและมีจุดหมายปลายทางที่หลากหลายมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงเลือกที่จะลงทุนผลิตเครื่องบินโบอิ้ง 787" เขากล่าว
          นอกจากนี้ โบอิ้งเปิดเผยว่าได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 787 กว่า 630 ลำ โดยจะเริ่มให้บริการได้ในช่วงกลางปี 2551 โดยราคาเครื่องบินรุ่นนี้คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 787 กลายมาเป็นคู่แข่งกับเครื่องบินซูเปอร์จัมโบ้ A350 ของบริษัทคู่แข่งอย่างแอร์บัส ธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน