ผู้บริโภควิตกคุณภาพสินค้าจีนหลังพบปนเปื้อนตั้งแต่อาหารสัตว์ถึงของเล่น

          ผู้บริโภคต่างวิตกถึงคุณภาพของสินค้าอุปโภคบริโภคจากจีน นับตั้งแต่มีการตรวจพบอาหารสัตว์ปนเปื้อนที่ทำให้สุนัขและแมวป่วย รวมทั้งการออกคำเตือนเกี่ยวกับยาสีฟัน รถไฟของเล่น ยางรถยนต์ และปลาหลายชนิด
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ประเด็นความปลอดภัยด้านอาหารเป็นสิ่งที่กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ทางการค้า หลังจากที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนเป็นมูลค่ามหาศาลกว่า 2.33 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2549 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดสำหรับการขาดดุลกับเพียงประเทศเดียว ขณะที่การนำเข้าสินค้าจากจีนมายังสหรัฐมีมูลค่า 2.88 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่สหรัฐนำเข้าสินค้าเพียง 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากจีน 
          ของเล่นทั้งหมดในสหรัฐกว่า 80% ผลิตในจีน และจีนเป็นแหล่งนำเข้ายางอันดับหนึ่งของสหรัฐ โดยคิดเป็น 40% ของตลาดจากทุกประเทศ รวมทั้งเป็นซัพพลายเออร์อาหารทะเลอันดับต้นๆของโลก เมื่อปีที่แล้วจีนส่งออกปลามายังสหรัฐกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่อันดับ 3 ของตลาดสหรัฐ
          อย่างไรก็ตาม การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นกลับมาพร้อมกับจำนวนสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน สินค้าจีนถูกเรียกคืนในสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยสินค้านำเข้าจากจีนคิดเป็น 60% ของสินค้าที่มีการเรียกคืนโดยคณะกรรมการความปลอดภัยผลิตภัณฑ์บริโภคในปีนี้  
          เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คณะกรรมการได้เรียกคืนอัญมณีที่ทำในจีนเนื่องจากมีสารพิษ และชุดของเล่นแม่เหล็ก รวมทั้งปราสาทพลาสติกที่มีชิ้นส่วนเล็กๆที่เด็กอาจกลืนจนหายใจไม่ออกได้
          ปัญหาเหล่านี้สร้างความกังวลให้สภาคองเกรส ซึ่งสมาชิกได้วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนาหู ถึงการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยนอกจากการขาดดุลการค้าที่สูงขึ้นแล้ว ยังเกิดการสูญเสียงานในภาคการผลิตกว่า 3 ล้านอัตรานับแต่ปี 2543 
          นักวิจารณ์ได้วิพากษ์การตัดลบงบประมาณของรัฐบาลปธน.บุช ที่ทำให้สำนักงานกำกับดูแลหลายแห่งไม่มีงบประมาณ แต่กลุ่มอุตสาหกรรมกล่าวว่า การปิดบังข้อเท็จจริงเกิดจากบริษัทเอกชนที่ต้องการปกป้องชื่อเสียงของตนเอง
          ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นจนกว่ารัฐบาลจีนจะใส่ใจคำแนะนำของรัฐบาลสหรัฐ ที่ให้จีนเริ่มผลักดันให้เศรษฐกิจของตนพึ่งพาอุปสงค์ในประเทศมากกว่าการส่งออก