กฟผ.เผยเขื่อนใหญ่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย พร้อมวางแผนระบายน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภคช่วงฤดูแล้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 15, 2020 18:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กฟผ.เผยเขื่อนใหญ่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย พร้อมวางแผนระบายน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภคช่วงฤดูแล้ง

นายประเสริฐ อินทับ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงการบริหารจัดการน้ำของ กฟผ. ในช่วงฤดูแล้งนี้ว่า ได้ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ทั้งนี้ จากสถานการณ์ฝนแล้งในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อปริมาณน้ำในภาพรวมของเขื่อน กฟผ. ทั่วประเทศ โดยเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนห้วยกุ่ม และเขื่อนรัชชประภา มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย และเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำต่ำกว่าระดับเก็บกักต่ำสุด ซึ่ง กฟผ. ได้วางแนวทางการบริหารจัดการน้ำของ กฟผ. ในช่วงฤดูแล้งปี 2562/2563 ของเขื่อนที่มีปริมาณน้ำต้นทุนในเกณฑ์น้อย โดยให้มีการระบายน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น

กฟผ.เผยเขื่อนใหญ่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย พร้อมวางแผนระบายน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภคช่วงฤดูแล้ง

ตลอดช่วงภัยแล้ง กฟผ. ได้มีส่วนร่วมดำเนินการบรรเทาและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยแล้ง ด้วยการสนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภคปริมาณน้ำรวม 1,612,632 ลิตร ให้แก่ชุมชนในพื้นที่เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนรัชชประภา เขื่อนบางลาง และโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งยังให้บริการน้ำดิบและน้ำประปา จำนวนประมาณ 28,000,000 ลิตร เพื่อใช้ในชุมชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง

พร้อมสนับสนุนน้ำดิบและน้ำประปา เพื่อนำไปใช้อุปโภคและทำการเกษตรผ่านโครงการต่าง ๆ ได้แก่ โครงการสูบน้ำจากหน้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ส่งน้ำลงท่อที่เขื่อนดินช่องเขาขาด เพื่อส่งน้ำไปลงบ่อพักด้านท้ายเขื่อน และผ่านท่อของโครงการจัดหาน้ำผู้อพยพท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และคลองสิงห์ กว่า 2.18 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เพื่อช่วยเหลือชุมชนที่อยู่บริเวณริมคลองสิงห์ให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการใช้อุปโภคตลอดช่วงฤดูแล้ง

นอกจากนั้น ช่วงฤดูฝนที่จะถึงนี้ กฟผ. ยังมีแผนตรวจสอบและประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อน อ่างเก็บน้ำ อาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำ และสถานีโทรมาตร ให้พร้อมใช้งาน ตลอดจนตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำที่จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการระบายน้ำและอาจส่งผลให้เกิดปัญหาท่วมขัง

พร้อมกันนี้ได้ดำเนินการสร้างฝายชะลอน้ำบริเวณป่ารอบพื้นที่เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนรัชชประภา รวม 415 ฝาย เพื่อชะลอการไหลของน้ำไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ช่วยลดการพังทลายของดิน และช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในฤดูแล้ง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ