Taiwan Excellence รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมของไต้หวัน ภายใต้การดำเนินการโดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (Bureau of Foreign Trade) และสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (Taiwan External Trade Development Council – TAITRA) เปิดตัวนวัตกรรมอุปกรณ์จาก 4 บริษัทไต้หวันที่ได้รับรางวัลในหมวดอุปกรณ์ชิ้นส่วนและฮาร์ดแวร์ผ่านการแถลงข่าวออนไลน์ ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านการผลิตแบบอัจฉริยะ ความคิดสร้างสรรค์ และซัพพลายเชนสมบูรณ์แบบที่ทำให้มูลค่าการส่งออกอุปกรณ์ชิ้นส่วนและฮาร์ดแวร์ของไต้หวันสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
นายไซม่อน หวัง รองประธานกรรมการบริหาร สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) เปิดเผยในการแถลงข่าวออนไลน์ว่า "สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายภาคส่วนต้องทำงานจากที่บ้านหรืออาจมีอุปสรรคในการติดต่อและดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ ภายใต้สถานการณ์นี้ Taiwan Excellence ได้รับมือกับสถานการณ์โดยการปรับกลยุทธ์ในการนำเสนอและแสดงนวัตกรรมชิ้นส่วนและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทางออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย ผู้ซื้อทั่วโลก และผู้สนใจได้รับชมการแนะนำ และสาธิตอุปกรณ์ เพื่อพัฒนาและสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจผ่านออนไลน์ โดยผู้ซื้อทั่วโลกสามารถเลือกสรรอุปกรณ์และชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ได้จากทุกที่ และทุกเวลา"
"ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมอุปกรณ์และชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ในระดับนานาชาติจะมีการแข่งขันที่สูงมาก แต่ด้วยความความคิดสร้างสรรค์ของไต้หวัน การผลิตที่แม่นยำ และห่วงโซ่อุปทานที่สมบูรณ์ ทำให้อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ไต้หวันได้รับการยอมรับเป็นอันดับต้น ๆ และมีผลตอบรับที่ดีเยี่ยม ซึ่งในปี 2562 มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมอุปกรณ์ชิ้นส่วนและฮาร์ดแวร์นั้นมีมูลค่าสูงกว่า 3.79 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไต้หวันติดอันดับสามของโลก ซึ่งการติดอันดับนี้เกิดจากการพัฒนาสายการผลิตแบบ OEM แบบดั้งเดิมไปสู่การผลิตอัจฉริยะซึ่งมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้ผลิดได้แม่นยำและมีคุณภาพ อีกทั้งยังใส่ใจตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุผลิตภัณฑ์และการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น รวมถึงการใช้การตลาดแบบดิจิทัล และการนำกลยุทธ์การประชุมแบบออนไลน์ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและสร้างภาพลักษณ์ โดยได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำระดับโลกของอุตสาหกรรมอุปกรณ์ชิ้นส่วนและฮาร์ดแวร์อีกด้วย" กล่าวเพิ่มเติม
Taiwan Excellence ได้เปิดตัวนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ล่าสุดจาก 4 แบรนด์ชั้นนำของไต้หวัน นับเป็นการตอกย้ำคุณภาพและประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมสลักภัณฑ์และการผลิตฮาร์ดแวร์
1. บริษัท Jing Fong industry Co., Ltd – นำเสนอ "น็อตและแป้นเกลียวกันคลายแบบหกเหลี่ยม" ซึ่งผ่านการพัฒนาการออกแบบใหม่ โดยปรับปรุงความแน่นของด้านประชิด (Contact Tightness) ผู้ใช้ไม่ต้องถอดเกลียว และพัฒนาให้สามารถป้องกันการคลายตัวของแป้นเกลียวและลดการสั่นสะเทือนได้เป็นพิเศษ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันอย่าง Daimler ได้นำเทคโนโลยีน็อตของ Jing Fong Industry ไปใช้ในรถยนต์ที่หรูหราอย่าง Mercedes Benz เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่ได้มากขึ้น
2. บริษัท Medical Intubation Technology Corporation – นำเสนอ "กล้องวิดีโอสโคป X2000 HD" ซึ่งกล้องรุ่นนี้ได้ถูกส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและกว่า 20 ประเทศในทวีปยุโรป ซึ่งเทคโนโลยีนี้เดิมทีถูกใช้เป็นกล้องส่องทางการแพทย์ แต่ได้รับการพัฒนาให้นำมาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมอื่นได้ เช่น การนำกล้องวิดีโอสโคปนี้มาใช้ในการซ่อมรถยนต์และเครื่องบิน ซึ่งจะทำให้มองเห็นไปถึงเครื่องยนต์ภายในได้ และสามารถค้นหาสาเหตุของปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ช่วยประหยัดเวลาและความเสี่ยงในการซ่อมแซมส่วนอื่น ๆ ได้ ซึ่งโรงงานรถยนต์เฟอร์รารี่ในอิตาลีได้นำกล้องเอนโดสโคปไปติดตั้งที่อุปกรณ์ต่อขยาย เพื่อตรวจดูเครื่องยนต์ภายในสำหรับตรวจสอบหาความผิดพลาดผ่านทางหน้าจอ ซึ่งกล้องวิดีโอสโคปที่พัฒนามาจากล้องส่องทางการแพทย์นี้สามารถทำรายได้สูงถึง 200 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
3. บริษัท Sheng Tai Brassware Co., Ltd. นำเสนอ "JUSTIME YES 2" ก๊อกน้ำติดผนังแบบด้ามจับเดียว ซึ่งอุปกรณ์นี้ได้รับรางวัล "Taiwan Excellence Award ปีล่าสุด" และได้รับรางวัล "Red Dot Award เมื่อปี 2562" ด้วยรูปแบบงานดีไซน์หัวก๊อกที่ทันสมัยของ Sheng Tai โดยได้รับแรงบันดาลใจในการจากเรขาคณิตตัว Y ด้วยกัน ทำให้ผลิตภัณฑ์มีรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียวและน่าดึงดูดที่มาพร้อมกับองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ โดยได้พัฒนาการออกแบบด้ามจับใหม่โดยใช้เทคนิคการตัดโลหะเพื่อเพิ่มแรงบิดในการจับได้อย่างปราณีตและลงตัว
4. บริษัท Airboss Air Tools Co., Ltd. นำเสนอ "Air Discharge Adjustment Pneumatic Wrench" ประแจลมที่คายประจุไฟฟ้าแบบปรับได้ผ่านตั้งค่าสวิตช์ควบคุม ประแจลมคุณภาพสูงนี้ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องและข้อจำกัดของเครื่องมือลมที่ไม่มีความสามารถในการเปลี่ยนความเร็วและแรงบิดเมื่อเปิดเครื่อง ซึ่งประแจลมคุณภาพสูงนี้ได้ถูกนำมาใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานของกำลังลมและกำลังอัดของอากาศเป็นจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมการผลิตและการประกอบยานยนต์, อุตสาหกรรมการผลิตหัวรถจักรอัตโนมัติ และจักรยาน ซึ่งประแจลมคุณภาพสูงนี้มีส่วนช่วยในการเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกด้วย