นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสภาวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติว่า นักลงทุนและภาคธุรกิจให้ความสนใจต่อการควบคุมอัตราเงินเฟ้อของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด
"ผมไม่แปลกใจที่กระแสคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อจะมีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อนโยบายเงินเฟ้อและความสามารถของเฟดในการสร้างเสถียรภาพด้านราคา ถ้านักลงทุน ผู้บริโภค และภาคธุรกิจ รู้สึกมั่นใจว่าเฟดจะสามารถรักษาเสถียรภาพด้านราคาไว้ได้ พวกเขาก็มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศจะลดลงอย่างแน่นอน"
"จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมรู้ว่า อัตราเงินเฟ้อในระดับสูงย่อมทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนในประเทศ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจบานปลายกลายเป็นความเสี่ยงต่อการลงทุนและกิจกรรมอื่นๆทางเศรษฐกิจที่มีความอ่อนไหวต่อการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ" นายเบอร์นันเก้กล่าว
ทั้งนี้ นายเบอร์นันเก้กล่าวว่า "อัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นผลดีต่อสินทรัพย์ของประชาชน เพราะราคาสินค้าที่ไม่สามารถควบคุมได้ย่อมทำให้สินทรัพย์ของประชาชนร่อยหรอลงด้วย อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนและมาตรฐานการดำรงชีวิต อย่างไรก็ตาม การทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุมด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่ยุ่งยากและนำความเจ็บปวดมาสู่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการ"
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งล่าสุดของนายเบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆเป็นพิเศษว่า เฟดจะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปอย่างไร อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 5.25% ไปตลอดปีนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--