ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 ก.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เพราะได้รับปัจจัยบวกจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นในเดือนก.ค.
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินยูโรดิ่งลงแตะระดับ 1.3789 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3783 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังงจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1.3813 ดอลลาร์ต่อยูโร
ส่วนค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0336 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0304 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 122.03 ดอลลาร์ต่อเยน จากระดับ 122.41 ดอลลาร์ต่อเยน แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0476 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0469 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้นดอลลาร์สหรัฐถูกกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 0.9% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2548 เนื่องจากความต้องการรถยนต์ และวัสดุก่อสร้างทรุดตัวลง
แต่ต่อมาไม่นาน ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อมหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของสหรัฐในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 92.4 จุด จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 85.3 จุด
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ค่าเงินดอลลาร์ได้ถูกแรงขายกระหน่ำลงอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในธุรกิจปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (subprime mortgage market) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวลดลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--