"คุณหญิงชฎา"เตือนรัฐบาลควรออกยาแรงเตรียมรับมือเงินทุนนอกไหลเข้าทะลัก

          คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) กล่าวว่า มาตรการทั้ง 6 ข้อเพื่อแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าที่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีวานนี้ เป็นมาตรการที่เหมาะสมและสามารถดูแลตลาดได้ในสภาวะที่ปกติ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือหากในอนาคตเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาอย่างมาก ดังนั้นภาครัฐอาจต้องใช้มาตรการที่แรงกว่านี้มาดูแล
          "ในสภาวะปกติคิดว่ามาตรการเหล่านี้เป็นการทำที่ถูกต้องและดูแลตลาดได้ ดิฉันห่วงอยู่เสมอว่าถ้าทะลักเข้ามามากมาย และจะมีเหตุผลอะไรไหมที่จะทะลักแบบนั้นในอนาคตอีก ถ้าการไหลเข้าออกของเงินตราเป็นประเภทน้ำบ่ามา มาตรการเหล่านี้จะใช้ได้หรือเปล่า คิดว่ามันจะต้องเป็นอะไรที่แรงกว่านั้น แต่เชื่อว่าวันนี้ไม่ต้องพูดถึง เพราะมันยังไม่เกิดขึ้น" คุณหญิงชฎา ให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุเช้านี้
          คุณหญิงชฎา กล่าวว่า มาตรการทั้ง 6 ข้อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาซึ่งส่งผลดีในเชิงจิตวิทยา และทำให้นักลงทุนมีกิจกรรมในตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทำให้เห็นจังหวะและโอกาสการเข้าไปลงทุนได้มากขึ้น ทั้งนี้ไม่ควรคาดหวังว่าจะทำให้เงินบาทกลับไปสู่ระดับที่บางฝ่ายต้องการอยากจะเห็น แต่เป็นเพียงแค่การช่วยพยุงไม่ให้เงินบาทแข็งค่ามากไปกว่านี้เท่านั้น
          "ทำให้ทุกคนเห็นว่าทางการของเราเอาจริง ร่วมกันพิจารณาให้เห็นว่าจะมีมาตรการอะไรบ้าง และเอามาตรการที่แสดงให้เห็นทิศทางที่เปิดประตูเพิ่มขึ้น เพราะเดิมมีไม่กี่ประตูที่เงินจะทั้งเข้าทั้งออก แต่ตอนนี้เปิดประตูด้านออกมากขึ้น เพื่อจะได้กระจายและบริหารเงินตราต่างประเทศที่เข้าประเทศให้มากยิ่งขึ้น และมีโอกาสจะเอาไปใช้จ่ายอย่างคล่องตัวขึ้น โดยที่ไม่ละเลยเรื่องของความระมัดระวัง" คุณหญิงชฎา กล่าว
          กรรมการบริหาร SCB ยังกล่าวถึงการจัดการค่าเงินบาทด้วยว่า นอกจากจะต้องบริหารจัดการค่าเงินโดยให้เป็นไปตามกลไกเสรีโดยไม่ฝืนตลาดแล้ว ควรจะต้องกำหนดเป้าหมายของค่าเงินบาทไว้ด้วย
          "เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยและผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามจะดูแล แต่บังเอิญยังไม่ค่อยเกิดผลนัก เพราะค่าเงินบาทของเราก็แข็งกว่าคนอื่นจริง จึงต้องมีมาตรการออกมาเป็นระยะและทำให้ไม่ผันผวน...แสดงให้เห็นว่าควรจะมีอะไรบ้าง" คุณหญิงชฎา ตอบคำถามถึงการบริหารจัดการค่าเงินซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดเป้าของค่าเงินบาทไว้