ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยมุมมองต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 2563 จะหดตัว -5.6% YoY แม้คาดว่าการส่งออกสินค้าอาหารและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะยังขยายตัวดีในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 จากความต้องการชั่วคราวของโลกในช่วงวิกฤตสุขภาพ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอยและยังมีความเสี่ยงที่จะหดตัวมากขึ้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดในแต่ละประเทศไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้การปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลกทำให้ห่วงโซ่การผลิตชะงักงันก็น่าจะยังเป็นปัจจัยที่ทำให้การส่งออกสินค้าไทยในช่วงที่เหลือของปี 2563 มีแนวโน้มหดตัว
แม้ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือน เม.ย.63 อยู่ที่ 18,948.2 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ 2.12% YoY สวนทางกับมุมมองของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะหดตัว -4.6% เนื่องจากหลายประเทศคู่ค้าหลักมีมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ที่มองว่า น่าจะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าไทยในเดือน เม.ย.63
สำหรับการส่งออกสินค้าไทยที่ขยายตัวในเดือน เม.ย. 2563 มาจากปัจจัยชั่วคราว 4 ประการ ได้แก่
1.การส่งออกทองคำที่โตสูงถึง 1,103%YoY จากความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นมาก หลังจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในเดือน เม.ย.63 โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ และประเทศแถบยุโรป เมื่อหักมูลค่าส่งออกทองคำแล้ว การส่งออกสินค้าไทยหดตัว -10.3%YoY
2.การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ขยายตัว 6.8% ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากมาตรการทำงานที่บ้าน (Work from home) ที่ทำให้ความต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์เพิ่มสูงขึ้น
3.การส่งออกสินค้าในหมวดอาหารที่ขยายตัว 10.6%YoY จากอุปสงค์โลกที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งนำเข้าอาหารเพื่อป้องกันภาวะขาดแคลนภายในประเทศ
4.การส่งกลับเครื่องบินพาณิชย์ไปยังประเทศสายการบินต้นทาง อย่างอินโดนีเซียและออสเตรเลีย เนื่องจากประเทศไทยมีมาตรการจำกัดการเข้าออกประเทศตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค.63 เป็นต้นมา