นายกฯ เผยผลหารือภาคธุรกิจ รับข้อเสนอแนะเร่งแก้ปัญหาขาดรายได้ ช่วยบรรเทาผลกระทบศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 26, 2020 18:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ถึงผลการไปพบปะกับสมาคมการค้าและธุรกิจต่างๆ โดยระบุว่า วิกฤตโควิดที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุข แต่ยังเป็นวิกฤตที่รุนแรงมากที่ส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของประชาชน

โดยวันนี้ ขอรายงานผลที่ได้จากการไปพบปะหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ มีหลายอย่างที่ได้สั่งการให้เกิดขึ้นแล้ว และอีกหลายอย่างที่ตัดสินใจแล้วว่าจะผลักดันให้เกิดขึ้น

ประการแรก ได้สั่งการในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จะเป็นนโยบายกำหนดโควต้าของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างที่ตั้งไว้แล้ว ต้องไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมไปถึงผู้ประกอบการเล็กๆ ในท้องถิ่นต่างๆ ทั้งนี้พิจารณาให้อยู่ในกรอบของข้อกฏหมาย นั่นหมายความว่าเงินจะถูกกระจายออกไปเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจรากหญ้า ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และกลุ่ม SME ทั่วประเทศ นอกจากนั้น อยากขอความร่วมมือจากบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ หากต้องซื้อของหรือใช้บริการอะไร ขอให้ช่วยกันสั่งซื้อของและใช้บริการจากผู้ประกอบการ SME ในประเทศของเรา

ประการที่ 2 ผลจากการหารือกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้รับทราบว่าสถานที่ค้าขายต่างๆ รวมทั้งศูนย์การค้า ห้างร้าน ต่างต้องการให้รีบเปิดสถานที่ค้าขายโดยเร็วที่สุด เพื่อกลับมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง โดยตัวแทนของภาคธุรกิจได้เล่าถึงวิธีการ และความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดที่ห้างร้านต่างๆ ได้เตรียมการกันไว้อย่างเข้มงวด ทำให้สบายใจในระดับหนึ่ง และทำให้ได้สั่งการเริ่มเปิดห้างร้านต่างๆ ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ประการที่ 3 ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งได้บอกชัดเจนว่าต้องการให้นักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว ซึ่งจะดำเนินการตามที่เสนอเมื่อเห็นว่าความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโควิดลดลงไปอยู่ในระดับที่จะยอมรับความเสี่ยงนั้นได้ เพราะต้องระมัดระวังอย่างมาก ไม่ให้ทุกอย่างที่ทำมาได้ดีทั้งหมดเสียเปล่า นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หาจุดสมดุลของการดูแลเรื่องสาธารณสุข และการช่วยเหลือเรื่องการทำมาหากินของประชาชน

ประการที่ 4 ได้สั่งการและสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐพิจารณาการใช้งบประมาณที่มีอยู่แล้วสำหรับการจัดประชุมสัมมนา ขอให้ออกไปใช้สถานที่ หรือโรงแรมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ หวังว่านี่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยขอให้เลือกใช้โรงแรมที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย

ประการที่ 5 จากการหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ได้รับทราบว่า มีแรงงานในบางภาคธุรกิจและในบางพื้นที่ ซึ่งนายจ้างจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราว แต่แรงงานยังไม่ได้รับเงินชดเชยประกันสังคม อาจจะด้วยปัญหาความไม่ชัดเจนในวิธีการพิจารณาและวิธีปฏิบัติ ซึ่งเห็นด้วยว่าเป็นประเด็นที่ต้องรีบแก้ไข จึงได้สั่งการ และขณะนี้ได้ดำเนินการให้มีความชัดเจนแล้ว ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง และแรงงานก็ได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม

ประการที่ 6 ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ทำให้ได้รับทราบถึงสิ่งที่เกษตรกรกังวลใจมากที่สุด มากกว่าโควิด นั่นคือ ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ จึงได้สั่งการไปแล้วว่าให้หาวิธีการรับมือกับสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ก่อน โดยทันที อะไรที่ทำแล้วจะช่วยได้บ้าง ก็ขอให้ทำไปก่อน และขณะนี้ตัวแทนชาวนาและเกษตรกรกำลังจัดทำแผนปฏิบัติที่ตรงจุด ซึ่งจะนำเสนอให้ผมพิจารณาเร็วๆ นี้

ประการที่ 7 จากที่ได้ไปพบและหารือกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะยาวของภาคการประมง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกฏหมายที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของการประกอบอาชีพ ซึ่งเห็นด้วยในหลายเรื่อง แต่ด้วยมีความซับซ้อนอยู่หลายประเด็น จึงสั่งการให้ตั้งทีมทำงานขึ้นมา เพื่อช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหา สิ่งสำคัญที่สุด คือ จะเชิญตัวแทนจากสมาคมประมง ทั้งประมงพาณิชย์ และประมงพื้นบ้านเข้ามานั่งเป็นทีมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทำให้เราหาวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และรวดเร็ว

"นี่เป็นส่วนหนึ่ง บางเรื่องที่ผมได้สั่งการไปแล้ว และเริ่มเกิดการปฏิบัติแล้ว ในระดับนโยบายและสั่งการ แก้ไขปัญหา หาวิธีการที่เหมาะสมโดยยึดกฎหมายเป็นหลัก" นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังระบุด้วยว่า การเดินทางไปพบปะสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ได้พบกับบุคคลที่น่าประทับใจหลายท่าน ซึ่งขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมากที่เป็นส่วนสำคัญของทีมประเทศไทยของเรา สิ่งที่อยากจะขอบคุณเป็นพิเศษก็คือ การที่ท่านทั้งหลายไม่เพียงมีความห่วงใยในภาคธุรกิจของตัวเอง แต่ทุกท่านยังมีความห่วงใยต่อประเทศด้วย นี่คือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเข้มแข็งต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ