นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวถึงผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง แบ่งเป็นการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 34 แห่ง จำนวน 55,640 ล้านบาท หรือคิดเป็น 98% ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 7 เดือน (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 – เมษายน 2563) และการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 11 แห่ง จำนวน 33,494 ล้านบาท หรือคิดเป็น 108% ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 4 เดือน (ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2563)
ทั้งนี้ มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สามารถเบิกจ่ายได้เกินกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ของ รฟม. โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคตะวันตกและภาคใต้เพื่อสร้างความมั่นคงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ 12 ปี 2560 – 2564 ของการไฟฟ้านครหลวง
สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 – 2560) ของบมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) และโครงการลงทุนโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ตามแผนระบบรับส่งและโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติเพื่อความมั่นคง (ระยะที่ 1 และ 2) และแผนระยะยาวพัฒนาอสังหาริมทรัพย์/อื่นๆ ของบมจ. ปตท. (PTT)
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. เปิดเผยว่า สคร. ได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2563 ของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง ที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงอย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ในภาพรวมรัฐวิสาหกิจยังสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2563 มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมจำนวน 89,134 ล้านบาท หรือคิดเป็น 101% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม ซึ่งรัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายสะสมได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่และสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง
"การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2563 ในภาพรวม รัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ยังคงสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการลงทุนบางโครงการที่ต้องใช้บุคลากรและการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ รวมทั้งผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องปรับปรุงแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับการดำเนินงานจริงด้วย"
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดย สคร. จะยังคงติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2563 อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถลงทุนโครงการต่างๆ ได้ตามเป้าหมาย รวมถึงช่วยผลักดันเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง