นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงปลดล็อกและผ่อนปรนการเปิดธุรกิจที่ผ่านมา จะเห็น "การปรับตัว" และเกิดวิถีใหม่ "New Normal" เพื่อให้ธุรกิจและระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าให้ได้ โดยมีหัวใจสำคัญของธุรกิจ คือ "ทรัพยากรบุคคล" ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ดังนั้น หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจึงได้ประสานความร่วมมือกับ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย สนับสนุนให้มีการจ้างงาน เพื่อแก้ไขปัญหาการว่างงานที่เป็นผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ด้วยการนำความสามารถทางเทคโนโลยี เช่น ระบบ Artificial Intelligence (AI) และ Data Analytics มาใช้ในการสร้างแพลตฟอร์มกลาง เพื่อเชื่อมโยงระหว่างภาคธุรกิจที่มีความต้องการขยายการจ้างงานกับภาคธุรกิจที่ต้องการลดการจ้างงาน โดยระบบจะทำหน้าที่ประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูลความต้องการ และจับคู่ให้ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อนจนเกินไป
"การนำแพลตฟอร์มกลางมาใช้จับคู่ความต้องการนี้ มีการตอบรับที่ดีจากกลุ่มสมาชิกหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยแล้ว จำนวน 29 บริษัท และยังมีสมาชิกอีกหลายรายที่เตรียมจะเข้ามาร่วมใช้แพลตฟอร์มดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือภาคแรงงานให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปให้ได้ เพราะภาคแรงงานถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะร่วมมือกันช่วยเหลือให้แรงงานไทย มีอาชีพ และมีรายได้ที่มั่นคง" นายกลินท์ กล่าว
นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า เอคเซนเชอร์ได้ประสานความร่วมมือกับหอการค้าไทยในการเปิดตัวแพลตฟอร์ม "People+Work Connect" เพื่อสนับสนุนองค์กรธุรกิจของไทยในการบริหารอุปสงค์และอุปทานด้านแรงงาน หรือจัดการตำแหน่งงานต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยได้ระบบอนาลิติกส์บนแพลตฟอร์ม People+Work Connect เป็นตัวช่วย
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวได้มีการออกแบบร่วมกันโดยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของเอคเซนเชอร์ Lincoln Financial Group, ServiceNow และ Verizon โดยเอคเซนเชอร์รับหน้าที่พัฒนาแพลตฟอร์มขึ้นมาจากการประชุมร่วมกัน และต่อยอดแนวคิดเริ่มต้นจนสำเร็จภายใน 14 วันทำการ ปัจจุบันมีองค์กรมากมายหลายแห่งจากหลากหลายอุตสาหกรรม เข้ามามีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มนี้อย่างรวดเร็ว
แพลตฟอร์มระหว่างธุรกิจนี้ จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ที่มีความพร้อม สามารถแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์และทักษะของพนักงานที่ถูกเลิกจ้างหรือพักงาน ให้แก่บริษัทอื่นที่กำลังมองหาคนทำงานบนแพลตฟอร์มได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แพลตฟอร์มนี้เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่โยงใยเข้ากับหลากหลายอุตสาหกรรม สามารถช่วยเติมเต็มตำแหน่งหรือทักษะใกล้เคียงกันซึ่งเป็นที่ต้องการ จากอุตสาหกรรมหนึ่ง ไปยังอีกอุตสาหกรรมอื่นที่มีตำแหน่งงานเปิดอยู่ เพื่อให้ในท้ายที่สุด จะสามารถลดระยะวงจรการว่างงานที่ซับซ้อนให้สั้นลงได้ ระบบอนาลิติกส์ที่ทำงานบนแพลตฟอร์ม จะดึงเอาข้อมูลรวมที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัวของคนทำงาน มาประมวลและจำแนกตามกลุ่ม เช่น เมืองที่อยู่ ที่ทำงาน และประสบการณ์ เป็นต้น
แพลตฟอร์ม People+Work Connect ทำให้เห็นข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ว่าบริษัทใดกำลังต้องการคนทำงาน และมีความต้องการจากที่ไหน ออกแบบมาเพื่อช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม อันสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ไวรัส ทำให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นในการยกระดับความเป็นอยู่ของคนในประเทศไทย ทั้งนี้ องค์กรธุรกิจในประเทศไทยมีบริษัทจากภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เข้ามาร่วมแล้ว อาทิ ภาคบริการทางการเงิน อุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร น้ำมันและก๊าซ เป็นต้น
"วิกฤตการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการว่างงาน มีคนที่ต้องหางานใหม่มากมาย การเชื่อมโยงเครือข่ายกับบริษัทที่มีความต้องการจ้างงานบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เข้ากับกลุ่มคนทำงานที่มีในตลาด เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้รองรับความต้องการของผู้คน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเราในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างอนาลิติกส์ เข้ามาใช้ประโยชน์ในการเสริมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับประเทศ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมแรงร่วมใจครั้งนี้ ทำให้เราสามารถช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบได้โดยเร็วและตรงจุด" นายนนทวัฒน์ กล่าว