นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบโควิดรอบสุดท้ายไม่เกิน 9 ล้านคน โดยจะเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ เพื่อใช้เงินจากพระราชกำหนดกู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนเยียวยา 6 แสนล้านบาทภายในสัปดาห์หน้า เพื่อเห็นชอบวงเงินที่จะใช้แจกต่อราย ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป และจะจ่ายเงินได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้
สำหรับกลุ่มตกหล่นที่ไม่ได้รับมาตรการช่วยเหลือก่อนหน้านี้จำนวน 9 ล้านคน แบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ 1.กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จำนวน 2.4 ล้านคน แต่ผ่านการตรวจสอบความซ้ำซ้อนสิทธิ เหลือแค่ 1.2 ล้านคน
2.กลุ่มผู้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกัน ไม่ถูกต้อง 1.7 ล้านคน พบข้อผิดพลาด เช่น ลงทะเบียนเพศ อายุ อาชีพไม่ถูกต้อง ตรวจสอบสิทธิความซ้ำซ้อนแล้วเหลือ 3 แสนคน
3. กลุ่มเปราะบาง เด็กผู้พิการ และผู้สูงอายุ ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.สัปดาห์ก่อน 13 ล้านคน ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ซ้ำซ้อนแล้วเหลือ 6.9-7 ล้านคน
4.กลุ่มประกันสังคมอีก 6.6 หมื่นคน ที่ตกงานแต่ยังจ่ายรายเดือนค่าประกันสังคมยังไม่ครบ 6 เดือน จึงไม่ได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิ์ประกันสังคม
นายประสงค์ กล่าวว่า การช่วยเหลือจะจ่ายเงินให้ 3 เดือนเหมือนกันหมด แต่ผู้ได้รับเงินเยียวยาในแต่ละกลุ่มจะได้ไม่เท่ากัน เช่น กลุ่มประกันสังคมจะได้ 5,000 บาท 3 เดือน และกลุ่มเปราะบาง ผ่าน ครม. ให้ความช่วยเหลือ 1,000 บาท 3 เดือน ส่วนกลุ่มผู้ถือบัตรคนจน และกลุ่มตกหล่นเราไม่ทิ้งกัน 3 แสนราย ต้องรอผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองก่อน จะจ่ายเท่าไหร่ และงบประมาณที่ใช้ ต้องผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองอีกครั้ง ซึ่งคลังยืนยันว่าเงินมีพอจ่าย ถ้าเงินไม่พอ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ก็สามารถกู้เงินตามอำนาจ พ.ร.ก.เพิ่มเพื่อมาจ่ายได้
"หาก ครม.เห็นชอบก็จะเริ่มโอนเงินเยียวยาได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ โดยจะโอนในส่วนเดือน พ.ค.-มิ.ย.ควบกัน 2 เดือน และไปแจกสุดท้ายในเดือน ก.ค. ซึ่งการแจกเงินช่วยเหลือโควิด กลุ่ม 9 ล้านคนนี้ จะเป็นล็อตสุดท้ายที่จะโอนเงินช่วยเหลือ จากที่ผ่านมาได้ดูแลไปหมดทุกกลุ่มแล้ว" นายประสงค์ กล่าว
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้รวบรวมข้อมูลผู้มาร้องทุกข์ไม่ได้รับเงินเยียวยาเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.63 โดยมีผู้ร้องทุกข์เข้าระบบแล้ว 1 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิไปแล้ว 34,805 คน เกษตรกร 12,496 คน ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (6 เดือน) 1,483 คน จึงเหลือกลุ่มที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน หรือตกหล่น 6,472 คน ซี่งกลุ่มนี้จะได้รับเงินเยียวยาในรอบสุดท้าย