นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ รายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ค.63 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -3.44% ถือเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี 10 เดือน และเป็นการติดลบต่อเนื่องกัน 3 เดือนนั้น ยังไม่เข้าข่ายเงินฝืดตามนิยามของการดำเนินนโยบายการเงิน
เนื่องจากในการดำเนินนโยบายการเงิน ธปท. อิงนิยามภาวะเงินฝืดของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งต้องเข้าเงื่อนไข 4 ข้อ ดังนี้ 1. อัตราเงินเฟ้อติดลบเป็นเวลานานพอสมควร (prolonged period)
2. อัตราเงินเฟ้อติดลบกระจายในหลายๆ หมวดสินค้าและบริการ
3. การคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาว ซึ่งปรกติดูที่ระยะ 5 ปี จะต้องต่ำกว่าเป้าหมายระยะปานกลางอย่างมีนัย
และ 4. อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจติดลบ และอัตราว่างงานมีแนวโน้มสูงขึ้น
ธปท.ระบุอีกว่า หากพิจารณาตามเงื่อนไขดังกล่าว จะพบว่ อัตราเงินเฟ้อของไทยติดลบเพียงสามเดือน อีกทั้งเป็นการติดลบจากราคาพลังงานเป็นสำคัญ ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อระยะ 5 ปีอยู่ที่ 1.8% ต่อปี ถือว่าใกล้เคียงกับกึ่งกลางของช่วงเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท. ที่ 1-3% ต่อปี
นายดอน กล่าวว่า แม้ประมาณการล่าสุดของ ธปท. จะให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีนี้ติดลบ แต่ยังมองว่าปีหน้าจะกลับเป็นบวกได้
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืดได้ หากเศรษฐกิจไทยหดตัวลึกหรือฟื้นตัวช้ากว่าที่ประเมินมาก โดย ธปท. จะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจและเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด