นายกฯเผยการขยายตัวทางศก.ไม่ได้ลดลง แนะผู้ประกอบการปรับตัวเพื่อแข่งขัน

           พล..อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เปิดบ้านพิษณุโลก"ถึงเศรษฐกิจในภาพรวมว่า ไม่ได้ลดลง การคาดคะเนถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นของธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสถาบันอื่นทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นธนาคารโลก ก็มองว่าเศรษฐกิจของเราจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้าด้วยซ้ำไป จากที่เราเคยบอกว่าประมาณร้อยละ 3.8 ถึง 4 กว่า ๆ ขณะนี้เป็นร้อยละ 4 ถึงร้อยละ 4.5 นั่นจะเห็นชัดเจนว่าโดยภาพรวมแล้ว การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ได้ลดลง อาจจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการในบางภาคบางส่วน ซึ่งเราก็หาทางที่จะปรับแก้กันอยู่ในขณะนี้ ตั้งกองทุนช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท
          สำหรับมาตรการ 6 ข้อที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมา เป็นเพียงมาตรการระยะปานกลาง และจะช่วยผ่อนคลายปริมาณของเงินดอลลาร์ที่เข้ามาในตลาดในประเทศให้ไหลออกไปพอสมควร ซึ่งในเรื่องของการลงทุนต่างประเทศนี้เองก็มีหลายส่วนที่ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ซึ่งนั่นก็จะทำให้ภาวะค่าของเงินบาทที่แข็งตัวเนื่องจากดอลลาร์เข้ามาอยู่ในประเทศมากเกินไป ก็จะลดลง นั่นเป็นมาตรการระยะปานกลาง สิ่งที่เราจะดู ก็คิดกันว่าสถานการณ์ความผันผวนของเรื่องของค่าเงินซึ่งเป็นกระแสโลกในขณะนี้ เราจะหาทางแก้อย่างไร
          นอกจากนี้ คงต้องระมัดระวังในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน เราคงพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน ในระยะปานกลางเราจะมีมาตรการที่จะระบายเงินออกไป ทำให้เอสเอ็มอี มีกองทุน ซึ่งสามารถที่จะขยายได้ต่อไป ระยะยาวก็พูดกันถึงว่าในภาคอุตสาหกรรม เอสเอ็มอีบางส่วนซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบ ก็ต้องเตรียมที่จะปรับตัว ซึ่งเราคงจะมีมาตรการในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะเราคงจะดูไปถึงแรงงาน ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบในด้านของผู้ผลิต เราจะไปดูในส่วนนี้ให้มากขึ้น
          พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังแนะนำให้โรงงานอุตสาหกรรมหลากหลายโรงงาน ต้องมีการปรับตัว ทั้งทางด้านเทคโนโลยี ทั้งในด้านการปรับที่จะเข้าไปแข่งขันกับต่างประเทศ เราต้องมาดูเอสเอ็มอี เพราะว่าเอสเอ็มอีจะทำเฉพาะบางส่วน คือรับมาทำเฉพาะเป็นเรื่อง ๆ ไป ตรงนี้จะเป็นงานซึ่งมีผู้ผลิตหรือผู้ใช้แรงงานมาก ทำอย่างไรที่เราจะมาดูมาปรับกันในส่วนเหล่านี้ว่า จะใช้แรงงานลดลงอย่างไร ไปสู่อุตสาหกรรมประเภทอื่นอย่างไร มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่จะต้องพูดกันและเป็นเรื่องระยะยาว ผมเรียนได้ว่าเรามีโอกาส เพราะว่าถ้าเราร่วมมือกัน เรามีความพร้อมที่จะปรับตัวเอง เรามีแหล่งเงินทุน เรามีเทคโนโลยี เรามีคนซึ่งถือได้ว่ามีความรู้ ความสามารถ เป็นแรงงานมีฝีมือ ตรงนี้จะเป็นตัวช่วยที่สำคัญ