ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากบริษัทค้าปลีกและบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.3729 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3738 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการนำสกุลเงินยูโรเข้ามาซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อปี 2542
ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งที่ระดับ 2.0267 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 2.0151 ดอลลาร์ต่อปอนด์หลังจากอังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ขยายตัวขึ้นรวดเร็วกว่าที่ธนาคารกลางอังกฤษตั้งเป้าหมายไว้
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนตัวลงแตะระดับ 12.03 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 123.33 เยนต่อดอลลาร์ อีกทั้งร่วงลงแตะระดับ 1.0212 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0454 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางแคนาดาประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้
นายปีเตอร์ ชิฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัทยูโร แปซิฟิก แคปิตอล กล่าวว่า "ข้อมูลมากมายที่บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร"
"อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงมาจากการที่บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทโฮม ดีโปท์ บริษัทเซียร์ส โฮลดิ้ง และบริษัทดร.ฮอร์ตัน ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการในสหรัฐ" เขากล่าว
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังถูกกดดันจากความกังวลเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (subprime mortgage market) และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในสหรัฐ
ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กแทบจะไม่ได้รับอิทธิพลจากการแสดงความคิดเห็นของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นที่เมืองเคมบริดจ์ โดยนายเบอร์นันเก้ไม่มีการส่งสัญญาณว่าเฟดจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในเรื่องอัตราดอกเบี้ย แต่มุ่งเน้นในเรื่องที่ว่าเฟดจะใช้วิธีควบคุมเงินเฟ้ออย่างไร
นายไมเคิล ชูเบิร์ท นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงค์กล่าวว่า คณะกรรมการสหภาพยุโรปได้อนุมัติให้ไซปรัสและมอลทา เริ่มใช้สกุลเงินยูโร ซึ่งทำให้ประเทศสมาชิกยุโรปที่ใช้เงินสกุลเดียวกันเพิ่มขึ้นเป็น 15 ประเทศ ทั้งนี้ นายชูเบิร์ทคาดว่า ค่าเงินยูโรจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.35-1.37 ดอลลาร์ต่อยูโร ในอีกไม่นานนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--