นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การพิจารณาขยายเวลาการลดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หรือก๊าซหุงต้มในอัตรา 3 บาท/กิโลกรัม (กก.) หรือ 45 บาทต่อถัง 15 กก. เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 24 มิ.ย.นั้น กระทรวงจะขอประเมินภาพรวมทั้งแนวโน้มราคาตลาดโลก และความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงหรือไม่ ตลอดจนสถานะของเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการดูแลราคา LPG ซึ่งเบื้องต้นพบว่ากองทุนน้ำมันฯยังมีขีดความสามารถในการใช้ดูแลราคาได้ ซึ่งหากเป็นไปตามประมาณการเดิมก็คาดว่าจะยังคงตรึงราคา LPG ได้ถึงสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้ปรับลดราคาขายปลีก LPG ลง 3 บาท/กก. ส่งผลให้ราคา LPG ถังขนาด 15 กก.มีราคาลดลงจาก 363 บาทต่อถัง เหลือ 318 บาทต่อถัง เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
สำหรับสถานะของเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 31 พ.ค.63 กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 58,278 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 23,560 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 34,718 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน 40,966 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) -6,248 ล้านบาท ขณะที่กบน.ได้ขยายกรอบบัญชี LPG เป็นติดลบไม่เกิน 10,000 ล้านบาท จากเดิมที่ติดลบไม่เกิน 7,000 ล้านบาท
"หากเป็นไปตามประมาณการณ์เดิมก็คาดว่าจะยังคงตรึงราคา LPG ได้ไปจนถึงสิ้นปี ที่ฐานะกองทุนฯสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งต้องยอมรับว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจทำให้ความต้องการใช้ทั้งน้ำมันและก๊าซหุงต้มต่ำกว่าแผนงานเดิม ทำให้ยอดการอุดหนุนต่ำกว่าประมาณการเช่นกัน"นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์นี้จะเริ่มทดสอบระบบบล็อกเชนในการซื้อขายไบโอดีเซล (100) โดยบมจ.ปตท. (PTT) จะรับซื้อ B100 จากโรงงานไบโอดีเซล 3 แห่ง ซึ่งระบบนี้ก็จะดูแลลงไปถึงราคาน้ำมันปาล์มดิบและผลปาล์ม ทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์จากราคาสะท้อนกลไกตลาดที่แท้จริง