ครม.เห็นชอบแก้ไขกฎหมายที่ส่งผลดีต่อการจัดอันดับ Doing Business

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 9, 2020 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าว แจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในประเด็นเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท อำนาจลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและการขอสำเนาเอกสาร และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป และรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

โดยมีสาระสำคัญ คือ

1.กำหนดให้การยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทสามารถยื่น ณ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทแห่งใดก็ได้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

2.กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัท

3.กำหนดให้หนังสือบริคณห์สนธิที่จดทะเบียนไว้สิ้นผลลง หากมิได้ดำเนินการจดทะเบียนภายในสามปี

4.กำหนดให้มีการประทับตราบริษัทในใบหุ้นทุกใบเฉพาะกรณีที่บริษัทมีตราประทับ

5.กำหนดให้การประชุมกรรมการอาจดำเนินการโดยการติดต่อสื่อสารด้วยเทคโนโลยีอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งทำให้กรรมการไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวในที่ประชุมก็ได้ เว้นแต่ข้อบังคับของบริษัทจะกำหนดห้ามไว้ โดยการประชุมดังกล่าวต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง และให้ถือว่ากรรมการซึ่งใช้การติดต่อสื่อสารนั้นได้เข้าร่วมประชุมกรรมการ และให้นับเป็นองค์ประชุมและมีสิทธิออกเสียงในการประชุมด้วย

6.กำหนดวิธีการบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นโดยให้ส่งทางไปรษณีย์ตอบรับไปยังผู้ถือหุ้น เว้นแต่บริษัทมีหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือที่ต้องโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่ด้วย

7.กำหนดบทเฉพาะกาลรองรับกรณีที่มีการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและเมื่อนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่มีการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิดังกล่าวถึงวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับแล้ว มีระยะเวลาเกินสามปี แต่ยังมิได้จดทะเบียนบริษัท ให้สามารถดำเนินการจดทะเบียนบริษัทได้ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ

กฎหมายฉบับนี้มีผลกระทบเชิงบวกช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจมีความคล่องตัว สะดวก และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินการทางธุรกิจ เพิ่มช่องทางให้บริษัทจำกัดสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน และลดภาระที่ไม่จำเป็นแก่ประชาชน อันเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบธุรกิจสามารถจัดตั้งธุรกิจได้ง่ายขึ้น มีบทคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และมีมาตรการคุ้มครองผู้ถือหุ้น

รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามาดำเนินธุรกิจในรูปแบบบริษัทง่ายขึ้น ซึ่งเป็นการเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการประกอบธุรกิจและสอดคล้องกับตัวชี้วัดของธนาคารโลก (World Bank) ซึ่งจะส่งผลดีต่อการประเมินของประเทศไทยในการจัดอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) โดยจะทำให้มีการพัฒนาและยกระดับความสามารถในการแข่งขันขององค์กรธุรกิจให้ทัดเทียมนานาประเทศ

ขณะเดียวกันอาจมีผลกระทบเชิงลบที่กำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติ เช่น กรณีแก้ไขร่างมาตรา 1099 ซึ่งเป็นมาตรการป้องกัน แก้ไข คุ้มครอง หรือเยียวยา ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบในเรื่องดังกล่าว โดยได้เพิ่มบทเฉพาะระยะเวลาให้หนังสือบริคณห์สนธิสิ้นผลหากมิได้จดทะเบียนบริษัท ภายใน 10 ปี เป็น 3 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิจึงอาจเป็นการจำกัดระยะเวลาการใช้สิทธิของผู้เริ่มก่อการในการใช้ชื่อบริษัทที่ได้มีการจดทะเบียนไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ แต่กระทรวงพาณิชย์มีกาลเพื่อให้หนังสือบริคณห์สนธิที่สิ้นผลไปโดยผลของการแก้ไขร่างมาตรา 1099 ยังสามารถนำมาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ภายใน 180 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ