พาณิชย์-เกษตรฯ ชู 4 พันธกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต หนุนเกษตรกรรายได้เพิ่มขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 10, 2020 17:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการแถลงวิสัยทัศน์ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด ภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า จะนำกระทรวงพาณิชย์เดินหน้าภายใต้นิยาม"พาณิชย์ทันสมัย" นำเทคโนโลยีและข้อมูลมาใช้ เพื่อทำการตลาดอย่างแม่นยำ สร้างทีมเซลล์แมนจังหวัดและทีมเซลล์แมนประเทศ ขยายตลาดด้วยเทคโนโลยีและการค้าออนไลน์ สร้างโมเดลการค้าใหม่ให้เกิดขึ้น ส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าไทย โดยมุ่งไปทั้งตลาดในประเทศและต่าง ประเทศ ใช้ทีมเซลล์แมนจังหวัดประกอบด้วย พาณิชย์จังหวัด ผู้ประกอบการในจังหวัด

ด้านตลาดต่างประเทศ ใช้ทีมเซลล์แมนประเทศประกอบด้วยทูตพาณิชย์กับผู้ส่งออกภาคเอกชน มีช่องทางการตลาด คือ ออนไลน์ (แพลตฟอร์มรายการสินค้าเพื่อรองรับนิวนอร์มอล) ออฟไลน์ (โมเดิร์นเทรด ,สมาร์ทโชวห่วย ,ธงฟ้า ,โมบายมาร์เก็ต ,โมบาย ,รถพุ่มพวง,คาราวาน ,ตลาดต่างๆ,ตลาดกลาง ,ตลาดสด) คอนแทรคฟาร์มมิ่ง (ทำเกษตรพันธสัญญา)เคาน์เตอร์เทรด (สร้างเวทีสร้างจับคู่ให้มากขึ้น)

"วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของประเทศไทย คือ เป็นการเปิดศักราชใหม่อย่างเป็นรูปธรรมในการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นการเปิดวิสัยทัศน์สำคัญร่วมกันของทั้ง 2 กระทรวงภายใต้วิสัยทัศน์ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" สร้างโอกาสให้คนไทยทุกคนโดยใช้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต"

ทั้ง 2 กระทรวงจะมีพันธกิจร่วมกัน 4 ประการ คือ 1.การร่วมกันสร้าง Single Big Data ให้เกิดขึ้น เพื่อให้ใช้ข้อมูลจากฐานเดียวกัน ซึ่งเป็นฐานข้อมูลร่วมของประเทศ ทั้งด้านการผลิตและการตลาด 2.การสร้างแพลตฟอร์มกลางเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อให้ภาคการผลิต คือ ภาคการเกษตร ภาคการแปรรูป อุตสาหกรรม และภาคการค้า การลงทุน การส่งออก ได้ใช้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูล พันธสัญญาในการซื้อขาย และทำการตลาดร่วมกันได้อย่างเป็นรูปธรรม 3.การร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในสินค้าเกษตร โดยจะต้องมุ่งเน้นคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้ และ 4.การพัฒนาคนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ, การเพิ่ม GDP ให้กับประเทศ และการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการในทุกระดับ

"ทั้ง 2 กระทรวงจะตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนทั้ง 4 พันธกิจ มีปลัดกระทรวงพาณิชย์และปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานร่วมกัน ในการจัดทำเป้าหมายที่เป็นตัวเลขชัดเจน ทำแผนปฏิบัติการ ทำโครงการขับเคลื่อน ทำตัวชี้วัด ทำทุกอย่างให้มีผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม และยังต้องมีคณะทำงานย่อยอีก 4 ชุด เพื่อดูแต่ละพันธกิจด้วย โดยให้เร่งทำงานโดยเร็วที่สุด" นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การทำงานด้านการตลาด กระทรวงพาณิชย์จะเป็นพาณิชย์ทันสมัย โดยนำเทคโนโลยีและข้อมูลทันสมัยจากทั่วทุกมุมโลกมาใช้เพื่อทำการตลาดอย่างแม่นยำ โดยจะมีทีมงานด้านการตลาดที่ทันสมัย มีทีมเซลส์แมนจังหวัด และทีมเซลส์แมนประเทศ ทำงานร่วมกับภาคเอกชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการตลาด และทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงเกษตรฯ จะเดินหน้าผลักดัน "เกษตรทันสมัย" และ "เกษตรปลอดภัย" โดยจะเน้นการทำเกษตรสมัยใหม่ นำเทคโนโลยีและข้อมูลมาใช้เพื่อทำการผลิตอย่างแม่นยำ ผลิตสินค้ามูลค่าสูง มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และตรวจสอบย้อนกลับได้ มีสินค้าเกษตรเป้าหมาย 5 รายการ คือ พืช ปศุสัตว์ ประมง เกษตรแปรรูป และเกษตรบริการ

ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ ได้เริ่มการค้าออนไลน์ มีการทำเอ็มโอยู กับ Lazada ,grab ,shopee ส่วนออฟไลน์ทำเอ็มโอยูกับเทสโก้ โลตัส และแม็คโคร เพื่อนำสินค้าเกษตรคุณภาพสู่มือผู้บริโภค "การได้กระทรวงพาณิชย์มาช่วยวันนี้จะช่วยได้อีกมาก วันนี้พาณิชย์จะจับมือกับเกษตรพาเกษตรกรก้าวผ่านความยากจนไปได้ ความร่วมมือในวันนี้เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ และภาคเกษตรเป็นความความหวัง ในยุคโควิด-19 ฉะนันวันนี้ เราต้องทำให้ดีที่สุด ร่วมกัน"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ