โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนประจำไตรมาสสองจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นตัวเลขการขยายตัวที่สูงกว่าในปีที่ผ่านมา และคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนมิ.ย.จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 4%
นายเหลียง ฮอง นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวในรายงานการวิจัยว่า "ยอดเกินดุลการค้ามีแนวโน้มว่าจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยยอดส่งออกสุทธิเพียงอย่างเดียวได้ช่วยให้ GDP ครึ่งปีแรกขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 4% "
ยอดเกินดุลการค้าเดือนมิ.ย.ของจีนมียอดรวมอยู่ที่ 2.684 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และยอดเกินดุลการค้าในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1.125 แสนล้านดอลลาร์
นายเหลียงคาดว่า ตัวเลขชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจประจำเดือนมิ.ย.จะแข็งแกร่ง ทั้งในส่วนของภาคการผลิตอุตสาหกรรมและการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ที่คาดว่าจะขยายตัวขึ้น ซึ่งเป็นผลจากอัตราการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M3 ที่เพิ่มขึ้น
โดยการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M3 พุ่งสูงขึ้นประมาณ 18-19% ในปีนี้ และขณะนี้กำลังพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2546
ในส่วนของภาวะเงินเฟ้อนั้น โกลด์แมน แซคส์คาดว่าการขยายตัวของ CPI มีแนวโน้มจะพุ่งขึ้น 4% โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาอาหารที่สูงขึ้น ซึ่งรวมถึงราคาเนื้อหมู
สำหรับนโยบายเฉพาะหน้านั้น โกลด์แมน แซคส์มองว่าจีนอาจหานโยบายที่สามารถรองรับเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่ง ด้วยการปรับลดหรือจำกัดภาษีรายได้ ควบคุมไปกับการปรับเพิ่มดอกเบี้ย 0.27% ทั้งในส่วนของดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งโกลด์แมน แซคส์มองว่ามีความเป็นไปได้ว่าทางการจีนจะปรับขึ้นอีก 0.50%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--