คู่ค้าสำคัญของไทย 3 ลำดับแรก ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปยังกัมพูชาเป็นอันดับ 1 มีมูลค่าการส่งออก 14,336 ล้านบาท คิด เป็นสัดส่วน 19.01% สินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่ม ไม่มีแอลกอฮอล์และสุกรมีชีวิต ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ มันสำปะหลังและมันเส้น เนื่องจากไทยมีปัญหาภาวะภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตเสียหายและมีปริมาณน้อยจึงต้องมีการนำเข้าจำนวนมาก
รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย มีมูลค่าการส่งออก 12,218 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16.20% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำ ยางข้น ขณะที่สินค้านำเข้า ได้แก่ กาแฟสำเร็จรูป ขนมปังและ ขนมจำพวกเบเกอรี่อื่นๆ
และอินโดนีเซีย มีมูลค่าการส่งออก 11,994 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15.90% สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ น้ำตาลทรายดิบและ สตาร์ททำจากมันสำปะหลัง ขณะที่สินค้านำเข้า ได้แก่ ปลาอินเดียนแมคเคอเรลและปลาไอส์แลนด์แมคเคอเรล เนื่องจากอินโดนีเซียเป็น แหล่งผลิตปลาทะเลขนาดใหญ่ ซึ่งไทยได้นำเข้ามาเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งออกต่อไป
สำหรับมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรรวม 113,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.10% จากปี 62 ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีมูลค่าส่ง ออกเป็น 75,415 ล้านบาท ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ น้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาล เครื่องดื่ม ไม่มีแอลกอฮอล์ ของปรุงแต่งเบ็ดเตล็ดที่บริโภคได้ ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้งและนม และสัตว์มีชีวิต อาทิ สุกรมีชีวิตอื่นๆ ที่มีน้ำหนัก ตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไป สุกรมีชีวิตสำหรับทำพันธุ์ โคตัวผู้
ส่วนการนำเข้ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีมูลค่าการนำเข้า 38,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.43% จากปี 62 โดยกลุ่มสินค้าเกษตรนำเข้าที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ พืชผักที่บริโภคได้โดยเฉพาะมันสำปะหลังและถั่วเขียว ปลาและสัตว์น้ำ ของปรุง แต่งเบ็ดเตล็ดที่บริโภคได้ ข้าวและธัญพืช และของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้งและนม
ทั้งนี้ สินค้าที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ ข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ เนื่องจากอยู่ในช่วงเวลาการ อนุญาตให้มีการนำเข้าโดยไม่จำกัดปริมาณภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) ตาม ประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ประกอบกับผลผลิตในประเทศมีปริมาณน้อยลง ทั้งจากปัญหาภัยแล้งรวมถึงโรคระบาดในข้าวโพด ทำให้ผลผลิต ที่ได้มีไม่เพียงพอ ต่อความต้องการใช้ จึงมีการนำเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพื่อแปรรูปเป็นอาหารสัตว์และจำหน่ายต่อไป
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรของไทยในภาพรวมยังอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 62 เนื่องจากในหลายภูมิภาคของไทยประสบปัญหาภาวะภัยแล้งที่รุนแรงและมาเร็วกว่าปกติ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโค โรนา (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก
ภาครัฐได้ดำเนินการตามมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วม กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ช่วยเหลือเกษตรที่ได้รับผลกระทบจำนวน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ. ค.-ก.ค.) เพื่อเยียวยาและแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร ให้สามารถนำเงินใช้เพื่อการยังชีพลงทุนทำการเกษตรพัฒนาต่อยอด และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรต่อไป
ตารางแสดงการส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตรที่สำคัญระหว่างไทย-อาเซียน 9 ประเทศ ช่วง ม.ค.-มี.ค.63 รายการ ปริมาณ(พันตัว,ตัน) มูลค่า (ล้านบาท) สัดส่วน (ร้อยละ) ส่งออก 75,415 100.00 น้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาล 1,494,872 14,575 19.33 เครื่องดื่ม - 12,821 17.00 ของปรุงแต่งเบ็ดเตล็ดที่บริโภคได้ 95,005 6,191 8.21 ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้ง นม 68,427 6,048 8.02 สัตว์มีชีวิต 4,038 5,650 7.49 อื่นๆ 30,130 39.95 นำเข้า 38,151 100.00 พืชผักที่บริโภคได้ 1,797,238 8,429 22.09 ปลาและสัตว์น้ำ 168,749 5,854 15.34 ของปรุงแต่งเบ็ดเตล็ดที่บริโภคได้ 36,470 4,422 11.59 ข้าวและธัญพืช 733,704 3,887 10.19 ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้ง และนม 19,840 3,019 7.91 อื่นๆ 12,540 32.87 ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร รวบรวมจากสถิติการค้าสินค้าของกรมศุลกากร