รมว.คลัง เตรียมหาแนวทางสนับสนุนเอกชนรายเล็กออกตราสารหนี้ได้มากขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 16, 2007 18:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาตราสารหนี้ว่า ทางการกำลังหาแนวทางส่งเสริมให้บริษัทเอกชนขนาดเล็กออกตราสารหนี้เพื่อระดมทุนได้ โดยอาจใช้วิธีพิเศษ คือ ไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติถึงระดับ Investment Grade แต่เรื่องนี้ยังต้องหารือกันในรายละเอียด ส่วนจะทำได้เร็วแค่ไหนคงต้องใช้เวลาพิจารณาก่อน 
เนื่องจากขณะนี้มีเพียงบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้นที่มีความสามารถในการออกพันธบัตรได้ และการออกพันธบัตรจะต้องมีการประเมินประสิทธิภาพในการชำระคืนในลักษณะการจัดอันดับเครดิต
นอกจากนั้น ขณะนี้กรมสรรพากรยังอยู่ระวห่างการพิจารณาทบทวนโครงสร้างภาษีตราสารหนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการสนับสนุน
การออกตราสารหนี้ของภาคเอกชนให้มีมากขึ้นด้วย
นายฉลองภพ กล่าวว่า การพัฒนาตลาดตราสารหนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในโครงสร้างทางการเงิน เพื่อเป็นทางการให้กับภาคเอกชนในการระดมทุนแทนที่จะต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างประเทศ เห็นได้จากก่อนเกิดวิกฤติภาคเอกชนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกู้จากต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่ากู้จากสถาบันการเงินในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ระยะสั้น เมื่อประเทศมีปัญหาทำให้บริษัทจำนวนมากถูกเจ้าหนี้เรียกเงินคืนในเวลาไล่เลี่ยกัน จนนำไปสู่ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปี 40
อย่างไรก็ตาม ตราสารหนี้ที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากภาคเอกชนได้ประโยชน์จากการออกตราสารหนี้เพียง 8%ของเงินลงทุนที่ใช้ทั้งหมด ซึ่งรวมเงินกู้จากธนาคารแล้ว เพราะเช่นนั้น ยังมีโอกาสอีกมากที่ภาคเอกชนจะใช้ประโยชน์จากตราสารหนี้ แต่ภาครัฐต้องเป็นผู้นำ ซึ่งก็สอดคล้องกับขณะนี้เองที่รัฐบาลกำลังแก้ไขพ.ร.บ.หนี้สาธารณะ ที่จะให้อำนาจกับกระทรวงคลังในการออกพันธบัตรเพื่อพัฒนาตลาดตราสารหนี้ได้
รมว.คลัง กล่าวต่อว่า ในอดีตรัฐบาลไม่สามารถออกพันธบัตรได้หากใช้นโยบายงบประมาณเกินดุล แต่ในอนาคตเมื่อแก้ไขกฎหมายแล้วจะทำให้สามารถดำเนินการได้แม้จะเกินดุลงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการเตรียมความพร้อม เพราะคาดว่าในอีก 2-3 เดือนกฎหมายนี้คงจะออกมา โดยจะต้องดูว่าวิธีบริหาร การออกพันธบัตรเพื่อพัฒนาตลาดราสารหนี้จะอิงกรอบแนวคิดและวิธีการปฎิบัติอย่างไร
และเมื่อกระทรวงการคลังมีบทบาทในการออกพันธบัตรมากขึ้น ก็จำเป็นต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เนื่องจากการใช้ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาตลาดทุนจะช่วยดูดซับสภาพคล่องเงินบาทได้ในบางช่วง แม้แต่การช่วยนำเงินที่ได้ไปลงทุนต่างประเทศ ก็จะมีผลต่อการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนด้วย จึงต้องมีการมองภาพทั้งระบบร่วมกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ