คลังเผย 9 เดือนแรกปีงบ 50 รัฐอัดฉีดเงินเข้าระบบแล้ว 1.15 ล้านล้านบาท

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 27, 2007 13:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยฐานะการคลังเบื้องต้นในไตรมาสที่ 3 (เมษายน—มิถุนายน 2550) รัฐบาลมีรายได้รวม 463,654 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.9 ในขณะที่รัฐบาลมีรายจ่ายทั้งสิ้น 429,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 34.0
ผลจากการที่รายได้รัฐบาลสูงกว่ารายจ่ายส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในไตรมาสที่ 3 เกินดุล 34,461 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วเกินดุล 117,776 ล้านบาท
รายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศประกอบด้วย Project Loans และ Structural Adjustment Loans มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 1,024 ล้านบาท ในขณะที่ปีที่แล้วมีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 1,613 ล้านบาท เบิกจ่ายลดลง 589 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 36.5
ดุลบัญชีนอกงบประมาณ (ประกอบด้วยกองทุนนอกงบประมาณและเงินฝากนอกงบประมาณ) ในช่วงไตรมาสที่ 3 เกินดุล 48,449 ล้านบาท เกินดุลเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่เกินดุล 31,514 ล้านบาท
แม้ว่าการเบิกจ่ายงบประมาณจะเร่งตัวขึ้นมาก ในไตรมาสที่ 3 แต่รัฐบาลมีรายได้ที่สำคัญบางประเภทเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดุลการคลังของรัฐบาลตามระบบ สศค. ในไตรมาสที่ 3 เกินดุลทั้งสิ้น 81,886 ล้านบาท แต่เกินดุลลดลง จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 65,791 ล้านบาท (ร้อยละ 44.6)
ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550 รัฐบาลมีรายได้ทั้งสิ้น 1,080,550 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.9 ของ GDP เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.6 โดยรายได้ที่มีอัตราการจัดเก็บเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ได้แก่ ภาษีเบียร์ ภาษียาสูบ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีสุรา ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีเครื่องดื่ม นอกจากนั้นการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550 ก็สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมามาก
ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550 เม็ดเงินรัฐบาลอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งสิ้น 1,149,997 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.7 ของ GDP เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.5
ดุลเงินงบประมาณในช่วง 9 เดือนแรกขาดดุล 69,447 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.8 ของ GDP ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วขาดดุล 17,621 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.2 ของ GDP
จากการที่ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบ สศค. ขาดดุลไปแล้วทั้งสิ้น 41,810 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วเกินดุล 31,662 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่านโยบายการคลังได้มีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการคลังของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายแบบขาดดุลจำนวน 146,200 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ