พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) นำคณะเดินทางลงพื้นที่ไปมอบนโยบายแก่ผู้แทนหน่วยงานส่วนกลาง และคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พร้อมพบปะเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน และผู้ประกอบการ บริเวณพื้นที่ อ.พุนพิน และ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี
โดย พล.อ.ประวิตร ได้แสดงความห่วงใยเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา นครศรีธรรมราช และชุมพร ซึ่งมีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน 75% ของประเทศ เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้ราคาปาล์มลดลง แต่รัฐบาลได้จ่ายเงินชดเชยประกันรายได้ตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้วจำนวน 1,400 ล้านบาทเศษ ที่ผ่านมา กนป.ได้ออกมาตรการด้านการผลิต การตลาด และพลังงาน โดยยึดหลัก "ปาล์มคุณภาพ ราคาที่เป็นธรรม ผลักดันไบโอดีเซล ลดมลภาวะ"
ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดการณ์ว่า ในปี 63 ผลผลิตปาล์มน้ำมันจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวน 17 ล้านตัน กนป.จึงต้องเพิ่มความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ โดยเน้นมาตรการด้านพลังงาน การนำไปผลิตไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล B10 ให้ได้ตามเป้าหมาย ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีไม่ต่ำกว่า 4 บาท/ก.ก.ซึ่งจะเพียงพอต่อการดำรงชีพของเกษตรกร
พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ในการสร้างการรับรู้แก่เกษตรกร ให้ปลูกฝังการตัดปาล์มที่มีคุณภาพ/สุกเต็มที่ กวดขันการรับซื้อผลปาล์มที่ได้เกณฑ์มาตรฐานตามที่กรมการค้าภายในกำหนด กำกับโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันในอัตราไม่ต่ำกว่า 18% และกวดขันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มโดยผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปสหกรณ์โคออฟสุราษฎร์ธานี เพื่อมอบถุงปันสุขให้แก่เกษตรกรจำนวน 2,000 ชุด พร้อมทั้งได้พบปะพูดคุย ให้กำลังใจ และกล่าวขอบคุณที่ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลตามมาตรการของ กนป.และร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ผ่านมาด้วยดี พร้อมยืนยันที่จะช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และผู้ประกอบการในภาพรวมอย่างเป็นธรรม และพร้อมชดเชยประกันรายได้ตามมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องต่อไป